xs
xsm
sm
md
lg

ศาลนัดฟังคำสั่งหมายจับ 43 กปปส.14 พ.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ
ศาลอาญานัดฟังคำสั่ง ดีเอสไอยื่นขอออกหมายจับ 43 แกนนำ กปปส.บ่ายวันที่ 14 พ.ค.นี้ ทนายความ กปปส.เผยคัดค้านหมายจับ เนื่องจากผู้ต้องหาบางส่วนมีหมายจับเก่า บางส่วนยังไม่ได้รับทราบข้อกล่าวหา


ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (12 พ.ค.) ศาลได้อ่านคำสั่งที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ ดีเอสไอ ยื่นคำร้องขอให้ศาลอนุมัติหมายจับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. ผู้ต้องหาที่ 2 และแกนนำ กปปส.รวม 43 คน ผู้ต้องหาคดีกบฏและความผิดอื่นรวม 8 ข้อหา เพื่อติดตามตัวมาดำเนินกระบวนการตามกฎหมายที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยก่อนที่ศาลจะอ่านคำสั่ง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ แถลงต่อศาลว่าข้อหาที่ขอออกหมายจับดังกล่าวส่วนใหญ่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พร้อมทั้งระบุถึงผู้ต้องหาบางรายที่ประสงค์ไม่ขอออกหมายจับ เนื่องจากได้ออกหมายเรียกไปแล้ว

ศาลพิจารณาพยานหลักฐานที่นำเสนอแล้วเห็นว่า ตามคำร้องขอออกหมายจับของผู้ร้อง ปรากฏว่ามีสำเนาที่พนักงานอัยการสั่งฟ้องเป็นหนังสือ ที่ อส.0010/292 ฉบับลงวันที่ 8 พ.ค. 2557 ศาลจึงให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอนำต้นฉบับที่สั่งฟ้องมาให้ศาลตรวจดู ปรากฏว่าเป็นฉบับเดียวกัน และพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้แถลงยืนยันว่าพนักงานอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาตามหนังสือฉบับดังกล่าวจริง เมื่อสอบถามเกี่ยวกับผู้ต้องหาที่ผู้ร้องไม่ขอออกหมายจับ ได้แก่ นายสาธิต ปิตุเตชะ ผู้ต้องหาที่ 20 นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ต้องหาที่ 22 นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ผู้ต้องหาที่ 29 นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ผู้ต้องหาที่ 34 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้ต้องหาที่ 35 และนางนาตยา เบญจศิริวรรณ ผู้ต้องหาที่ 53 ทั้งหมดเป็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พนักงานสอบสวนดีเอสไอแถลงว่าบุคคลดังกล่าวได้รับหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ซึ่งได้มารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนและได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 6 คนแล้ว จึงไม่มีความประสงค์ที่จะออกหมายจับผู้คนดังกล่าว

ส่วนนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้ต้องหาที่ 58 พนักงานสอบสวนดีเอสไอแถลงว่าเป็นบุคคลที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมช. ซึ่งเชื่อว่าสามารถที่จะติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ จึงไม่ขอออกหมายจับ แต่หากนายถวิลไม่มาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการออกหมายจับต่อไป ศาลจึงนัดฟังคำสั่งวันที่ 14 พ.ค.นี้ เวลา 15.00 น.

ส่วนที่นายวิโรจน์ ภูมิศิริสวัสดิ์ ทีมทนายความกลุ่ม กปปส.ได้ยื่นคำคัดค้านพนักงานสอบสวนดีเอสไอในการขอหมายจับ โดยอ้างเหตุผู้ต้องหาไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี ขณะที่ผู้ต้องหาบางราย พนักงานสอบสวนเคยออกหมายจับแล้วหลายครั้งประกอบกับการตั้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนนั้นไม่ชอบ ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ในชั้นนี้ยังไม่มีเหตุให้รับคำคัดค้านไว้ เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างผู้ร้องและศาล

ต่อมาศาลอาญาได้ออกแถลงการณ์ภายหลังปรากฏข่าวจากสื่อมวลชนบางสำนักในวันนี้ว่า ศาลอาญาอออกหมายจับแกนนำ กปปส.แล้วนั้น กรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องออกหมายจับแกนนำ กปปส. เนื่องจากพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในข้อหากบฏนั้น ในวันนี้ศาลอาญาได้ดำเนินการไต่สวนแล้ว และได้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เวลา 15.00 น.

ขณะที่นายวิโรจน์กล่าวว่า การที่ศาลไม่รับคำคัดค้านก็ไม่มีผลในทางคดีความ แต่ถือว่าเราได้ยื่นคำคัดค้านแล้ว ซึ่งจะปรากฏอยู่ในสำนวน

นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทีมทนายความกลุ่ม กปปส.กล่าวว่า ผู้ต้องหาบางคนมีหมายจับเก่าอยู่แล้ว และหลายคนยังไม่ได้เข้าให้ปากคำหรือรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน แต่ปรากฏว่าดีเอสไอได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องให้อัยการไปแล้ว จึงเห็นว่าขั้นตอนดังกล่าวน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเชื่อมั่นว่าสุดท้ายแล้วศาลจะไม่ออกหมายจับให้ ส่วนเหตุผลที่ทนายความต้องมายื่นคัดค้านหมายจับ เนื่องจากเป็นที่รับทราบกันว่า การต่อสู้ของกลุ่ม กปปส.มาถึงช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว เปรียบได้กับสถานการณ์ดาบติดปลายปืนแล้ว จึงต้องป้องกันไว้ก่อน ซึ่งศาลนัดฟังคำสั่งอีกครั้ง ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เวลา 15.00 น.

พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า เหตุที่การยื่นคำร้องดังกล่าวไม่ปรากฏชื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เนื่องจากดีเอสไอได้เคยขออนุมัติหมายจับนายสุเทพ และศาลได้มีคำสั่งให้อนุมัติหมายจับแล้วใน 2 ส่วน ครั้งแรกหมายจับในข้อหากบฏที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ร้องขอให้ศาลพิจารณาในชั้นสอบสวน ครั้งที่ 2 คือหมายจับที่ดีเอสไอร้องขอออกหมายจับเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากกรณีกระชับพื้นที่การชุมนุมของ นปช.ปี 2553

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอขอออกหมายจับทั้ง 43 รายนั้น ประกอบด้วย 1. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย 2. นายชุมพล จุลใส 3. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 4. นายอิสสระ สมชัย 5. นายวิทยา แก้วภราดัย 6. นายถาวร เสนเนียม 7. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 8. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 9. นางอัญชะลี ไพรีรัก 10. นายนิติธร ล้ำเหลือ 11. นายอุทัย ยอดมณี 12. ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ 13. พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ 14. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 15. นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์

16. พ.ต.ท.สุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ 17. นายสมบูรณ์ ทองบุราญ 18. น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี หรือกฤดากร 19. นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ 20. นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง 21. นายเสรี วงษ์มณฑา 22. นายกิตติศักดิ์ ปรกติ 23. นายถนอม อ่อนเกตุพล 24. พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ 25. นายสุริยะใส กตะศิลา 26. นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือรัชต์ชยุตม์ ศิรโยธินภักดี 27. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 28. พระสุวิทย์ ทองประเสริฐ 29. นายสาวิทย์ แก้วหวาน 30. นายสาธิต เซกัล

31.นายกิตติชัย ใสสะอาด 32. นายคมสัน ทองศิริ 33. นายพิเชฐ พัฒนโชติ 34. นายมั่นแม่น กะการดี 35. นายประกอบกิจ อินทร์ทอง 36. นายนัสเซอร์ ยีหมะ 37. นายพานสุวรรณ ณ แก้ว 38. นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด 39. นายสำราญ รอดเพชร 40. น.ส.รังสิมา รอดรัศมี 41. นางทยา ทีปสุวรรณ 42. พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี และ 43. พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่ม กปปส.
กำลังโหลดความคิดเห็น