เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อพุ่งชนรถเมล์สาย 1013 วิ่งระหว่างหัวตะเข้-พระโขนง ย่านอ่อนนุช 66 ส่งผลให้เกิดแก๊สรั่ว จนท.ดับเพลิงต้องใช้น้ำฉีดเลี้ยงเพื่อป้องกันการระเบิด ขณะที่โชเฟอร์รถพ่วงถูกอัดติดก๊อบปี้ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมา ส่วนผู้โดยสารรถเมล์เจ็บ 6 ราย การจราจรเป็นอัมพาตหลายชั่วโมง
วันนี้ (8 พ.ค.) พ.ต.ต.สมชาย สาระเกษ พงส.ผนก.สน.ประเวศ ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีรถพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียนส่วนหัว 87-4698 กรุงเทพมหานคร ส่วนพ่วงท้ายหมายเลขทะเบียน 77-7591 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนกับรถโดยสารประจำทางสาย 1013 หัวตะเข้-พระโขนง หมายเลขทะเบียน 12- 4159 กรุงเทพมหานคร บริเวณซอยอ่อนนุช 66 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณสะพานข้ามแยกอ่อนนุช พบรถพ่วง 18 ล้อพุ่งชนรถเมล์สายดังกล่าว บริเวณกลางตัวรถ ส่งผลให้ส่วนหัวของรถพ่วงได้รับความเสียหายอย่างหนักและมีผู้ติดอยู่ภายใน ทราบภายหลังเป็นคนขับรถพ่วงคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างก่อนจะรีบนำตัวส่ง รพ.กล้วยน้ำไท เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล ส่วนผู้บาดเจ็บที่โดยสารมากับรถประจำทางได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 ราย หนึ่งในนั้นเป็นชาวต่างชาติ เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่ง รพ.วิภาราม
รายชื่อผู้บาดเจ็บทั้ง 6 ราย ทราบชื่อภายหลัง คือ นายดิเรก สาขา อายุ 56 ปี, นางบุญเรือน ปานกล้วย อายุ 65 ปี, น.ส.บังอร จันทร์ทัพหลวง อายุ 35 ปี, นางนิตยา ซาบีดี อายุ 59 ปี, น.ส.ราตรี ศรีคล้าย อายุ 36 ปี และ Mrs.Vivicnne Simchawitz (ไม่ทราบสัญชาติ) อายุ 61 ปี ทั้งหมดเป็นผู้โดยสารรถประจำทาง ถูกส่งตัวรักษาที่ รพ.วิภาราม
จากการสอบสวน ส.อ.ทำนุ เอิบอิ่ม อายุ 54 ปี คนขับรถโดยสารประจำทางกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถจากพระโขนงไปทางลาดกระบัง เมื่อมาถึงสะพานข้ามแยกอ่อนนุชขณะขับลงสะพาน รถพ่วงที่ขับสวนมาบริเวณทางขึ้นสะพานพยายามจะแซงรถกระบะที่อยู่ด้านหน้าทำให้เฉี่ยวชนกันและมีผู้โดยสารในรถบาดเจ็บหลายราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นชาวต่างชาติที่นั่งเบาะหน้าสุด แรงกระแทกทำให้ผู้โดยสารชาวต่างชาติคนดังกล่าวพุ่งทะลุกระจกหน้ารถตกลงมาที่ถนน ศีรษะกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส
พ.ต.ต.สมชายกล่าวว่า ในส่วนของแก๊สรั่วนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้น้ำจากรถดับเพลิงฉีดเลี้ยงแก๊สที่รั่วตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เกิดการระเบิดขึ้น ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ขั้นตอนการสอบสวนคงต้องรอคนขับรถพ่วงอาการดีขึ้นจึงจะสามารถสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป