ศาลอุทธรณ์พิพากษา จำคุก 3 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา แนวร่วมเสื้อแดงจำหน่ายซีดีหมิ่นเบื้องสูงให้กลุ่มผู้ชุมนุมแดงสยาม บริเวณสนามหลวง เมื่อปี 2554
ที่ห้องพิจารณา 705 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (8 พ.ค.) ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอกชัย หรือเอก หงส์กังวาน แนวร่วมเสื้อแดง และพ่อค้าซีดี อายุ 38 ปี พักอยู่เลขที่ 1530 ซ.ลาดพร้าว 109 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551
โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2554 เวลากลางคืน ขณะที่มีการชุมนุมของกลุ่มแดงสยาม จำเลยจำหน่ายแผ่นซีดีที่เผยแพร่ภาพและเสียง ข้อความประกอบภาพ และภาพเคลื่อนไหว ให้ปรากฏแก่สายตาบุคคลทั่วไป และมีเอกสารประกอบที่เป็นบทความภาษาอังกฤษของ Wikileaks ที่จำเลยคัดลอกมาจากเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น องค์รัชทายาท ต่อมา พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แฝงตัวเข้าล่อซื้อแผ่นซีดี 1 แผ่น จึงจับกุมจำเลยพร้อมขยายผลไปตรวจค้นเจอของกลางเป็นแผ่นซีดีเนื้อหาหมิ่นเบื้องสูงอีก 141 แผ่น และซีดีเปล่า 120 แผ่น พร้อมเครื่องไรต์ซีดี เอกสาร Wikileaks อีก 26 ฉบับ เหตุเกิดที่อนุสาวรีย์ทหารอาสา แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. จำเลยให้การรับสารภาพ
คดีนี้ศาลชั้นต้น พิเคราะห์พยานหลักฐานที่นำสืบแล้วเห็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด พิพากษาให้จำคุก 5 ปี ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นรัชทายาท ตามมาตรา 112 และให้ปรับ 100,000 บาท ฐานประกอบธุรกิจจำหน่ายแผ่นวีดิทัศน์ (ซีดี) โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น รัชทายาทฯ เป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน และปรับ 66,666.66 บาท ฐานประกอบธุรกิจจำหน่ายแผ่นวีดิทัศน์ (ซีดี) โดยไม่ได้รับอนุญาต
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระราชินี รัชทายาท มาตรา 112 คงจำคุกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่พิพากษาให้แก้ความผิดตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ฯ จากมาตรา 82 เป็น มาตรา 79 แต่ยังกำหนดโทษตามเดิม
นายเอกชัย หงส์กังวาน กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า รู้สึกผิดหวัง คดีนี้โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ต้องห้ามฎีกาในประเด็นข้อเท็จจริง คงต้องให้ทนายความทำคำร้องขออนุญาตยื่นฎีกาต่อศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ต่อไป และที่ผ่านมาตนถูกจำคุกมาแล้ว 1 ปีเศษ
ขณะที่นายอานนท์ นำภา ทนายความจำเลย กล่าวว่า ตามที่ได้พูดคุยกับจำเลย ยังคงประสงค์ที่จะยื่นฎีกาสู้คดี