รวบแล้วมือทุบรถอีซูซุของ “เบนซ์-มิค”

ASTVผู้จัดการ – ตำรวจรวบ 2 วัยรุ่นทุบกระจกรถอีซูซุของคู่รักดารา “เบนซ์-มิค” ได้แล้ว แต่ยังหลบหนีอีกหนึ่ง สารภาพงัดรถขโมยของมาแล้วกว่า 20 ครั้ง ย่านอารีย์ ม.หอการค้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บางนา ประเวศ เน้นรถติดฟิล์มโปร่ง

เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (3 พ.ค.) ที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล1 (กก.สส.บก.น.1) พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผกก.สส.บก.น. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายปลื้ม (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ผู้ต้องตามหมายจับของศาลอาญาที่ 757/2557 ลงวันที่ 3 พ.ค. 57 และ นายนาถ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 758/2557 ลงวันที่ 3 พ.ค. 57 หลังร่วมกันก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์อีซูซุ รุ่นมิวเอ็กซ์ สีน้ำตาล ทะเบียน 1กฮ34 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของ “มิค” ร.อ.บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ และ “เบนซ์” น.ส.พรชิตา ณ สงขลา นักแสดงสาวชื่อดัง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ทรงพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่จุดเกิดเหตุและใกล้เคียง พบรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีส้ม-แดง ทะเบียน 1กฮ2965 กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สืบสวนจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง และจับกุมได้ที่ร้านขายของในหมู่บ้านสุภาวรรณ ย่านคลอง 3 จ.ปทุมธานี โดยยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่ยังหลบหนีอยู่ ชื่อนายนที อินเสาร์ อายุ 23 ปี โดยผู้ต้องหาจะขับรถแจ๊ซตระเวนหารถแล้วลงมือก่อเหตุ แบ่งหน้าที่กันโดยมีคนเฝ้าต้นทาง และคนขี่รถจักรยานยนต์ตาม

พ.ต.อ.ทรงพล กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มักจะขับรถตระเวนไปในย่านอารีย์ ม.หอการค้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บางนา และประเวศ โดยวันเกิดเหตุขับรถตระเวนเห็นรถยนต์อีซูซุคันดังกล่าวจอดอยู่ริมถนน โดยไม่ติดฟิล์ม จึงลงไปดูพบว่ามีกระเป๋าสะพายสีดำวางอยู่ที่หลังเบาะ จึงใช้ไขควงงัดที่ขอบกระจกจนแตกและมุดไปเอากระเป๋าสะพาย ทั้งนี้สัญญาณกันขโมยจะไม่ดัง เนื่องจากตัวรถไม่ได้รับแรงสั่นสะเทือน ซึ่งหลังก่อเหตุก็จะเอาทรัพย์สินมีค่ามาแบ่งกัน เพื่อนำเงินไปเที่ยวเตร่ ส่วนของอย่างอื่นก็เอาโยนทิ้งคลองริมถนนวิภาวดีรังสิต ตรงวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ซึ่งเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วไม่น้อยกว่า 20 ครั้งในพื้นที่ สน.ดินแดง สน.บางซื่อ และ สน.พญาไท บางครั้งก็งัดรถแล้วไม่พบทรัพย์สิน ส่วนใหญ่จะเลือกรถที่ฟิล์มโปร่ง โดยเอาทรัพย์สินเช่น โทรศัพท์มือถือไปขายที่ย่านคลองถม ส่วนเงินสดก็จะมาแบ่งกันไปใช้เที่ยวเตร่ ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งสองชอบไปแข่งรถกันที่สนามแข่งรถที่คลอง 5 จ.ปทุมธานี อีกด้วย

ด้าน ร.อ.บรมวุฒิ กล่าวว่า ตนฝากเตือนประชาชนให้ระวัง โดยเริ่มที่ตัวเราก่อน อย่าวางทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถ ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองคนอยากให้ไปหางานทำ ไม่ควรมาสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นๆ สำหรับทรัพย์สินที่ถูกขโมยไป ตอนนี้มีเพียงแหวน 1 วงกับเงินสดจำนวน 30,000 บาท ที่ยังไม่ได้คืน ที่เหลือก็ได้คืนหมด โดยเฉพาะแหวนที่ได้จากวัดกังหัน ที่ฮ่องกง ซึ่งตนได้มาเพื่อจะขออนุญาตแม่เบนซ์ให้ตนกับเบนซ์ได้แต่งงานกัน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ ควบคุมตัวก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป