อดีตตำรวจบ่อพลอย มอบตัวรับโทษประหารชีวิต

อดีตตำรวจ สภ.บ่อพลอย เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม ยอมเข้ามอบตัวเพื่อรับโทษ หลังศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต อ้างไม่เคยมีประวัติเป็นมือปืนรับจ้าง

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา จ.ส.ต.เอกราช แสงประเสริฐ อายุ 53 ปี อดีตตำรวจ สภ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เข้าติดต่อเข้าพบ ร.ต.ต.สงกรานต์ ศรีสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลอาญา เพื่อแสดงตัวว่าตนเองเป็นจำเลยในคดีแดง อ.9869/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องฐานร่วมกับพวกฆ่าผู้อื่น และศาลฎีกาพิพากษาให้ประหารชีวิต เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2557 โดยระบุยินดีขอรับโทษตามคำพิพากษา เมื่อ ร.ต.ต. สงกรานต์ ทราบความประสงค์ จึงขอดูบัตรประจำตัวประชาชนในเบื้องต้น แล้วประสานเจ้าหน้าที่ศาลให้ตรวจสอบอย่างละเอียด จนทราบว่าเป็นจำเลยจริง จึงนำตัวไปมอบให้เจ้าหน้าที่งานเวรชี้ แล้วค้นสำนวนเพื่อเสนอศาล ก็พบว่าจำเลยมีรูปพรรณสัณฐานตรงกับในรูปถ่าย จากนั้นศาลจึงได้สอบถามจำเลย ซึ่งรับว่าเป็นจำเลยในคดีดังกล่าวจริง ศาลจึงรับตัวไปออกหมายขังคดีถึงที่สุด แล้วส่งตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

จ.ส.ต.เอกราช เปิดเผยภายหลังเข้ามอบตัวว่า สาเหตุที่ติดต่อเข้ามอบตัว เนื่องจากศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่วันที่ศาลอ่านคำพิพากษานั้นตนไม่ได้รับทราบหมายให้มาฟังคำพิพากษา เนื่องจากตนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ต่อมาภายหลังได้ทราบจากนายประกันที่วางเงินประกันไว้ 6 แสนบาท ว่าศาลได้อ่านคำพิพากษาแล้ว จึงเดินทางมามอบตัว เพราะยอมรับคำตัดสินของศาล ไม่ได้กลัวจะถูกวิสามัญฆาตกรรมแต่อย่างใด

จ.ส.ต.เอกราช กล่าวต่อว่า คดีนี้ในชั้นจับกุมตนแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยนำอาวุธปืนไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน ซึ่งตนเข้าใจว่าถูกสร้างพยานหลักฐานเท็จ ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ต่อมาศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิต หลังจากนี้ตนก็เตรียมที่จะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ เนื่องจากเคยรับราชการตำรวจ ยศ จ.ส.ต.ตำเเหน่ง ผบ.หมู่ สภ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี โดยตนได้ออกจากราชการมาเมื่อปี 2539 ก่อนจะมาประกอบอาชีพคุมสถานบันเทิงย่านบางแค ขอยืนยันว่าคดีนี้ตนไม่รู้จักกับผู้เสียชีวิต ซึ่งในระหว่างสู้คดีนี้ได้ให้นายประกันยื่นหลักทรัพย์โฉนดที่ดินราคา 680,000 บาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยก่อนที่จะมามอบตัวในวันนี้ได้สั่งเสียภรรยาให้ดูแลบุตร จำนวน 2 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ให้ดี โดยหลังจากนั้นจำเลยได้เดินหน้าเข้าห้องขัง และขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อย่างไม่สะทกสะท้านและใบหน้าเรียบเฉย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 ธ.ค. 2549 โดยจำเลยกับพวกที่หลบหนี ใช้ปืนขนาด 11 มม. ยิงนายวีระชาติ เพ็งส้ม อดีต อบต.ละหาร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จนเสียชีวิตขณะเดินไปปัสสาวะหลายนัด จนถึงแก่ความตาย หลังจากดื่มกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านปากคลองตลาด กทม. จากนั้นจึงพากันหลบหนีไป ต่อมาถูกตำรวจ สน.พระราชวัง ตามจับตัวดำเนินคดี กระทั่งศาลอาญาตัดสินประหารชีวิต ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับยกฟ้อง แต่ศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดให้ประหารชีวิต

ทั้งนี้ คดีล่าสุด จ.ส.ต.เอกราช แสงประเสริฐ ยังถูกตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ออกหมายจับคดีที่นายพิสิษฐ์ ศรีสุขนาม อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน สำนักงานที่ดิน จ.นครปฐม และนายบาง สมบูรณ์ อายุ 41 ปี ถูกคนร้ายยิงจนเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล