ตร.ล่ามือปืนประกบยิงหนุ่มขับแจ๊ซดับคาถนน

ตำรวจ สน.เพชรเกษม ล่ามือยิงหนุ่มกลับจากเที่ยวผับ “เรดซี๊ด” ดับคาเก๋งฮอนด้า ระบุแฟนสาวและเพื่อนผู้ตายยังไม่ให้การที่เป็นประโยชน์มากนัก ต้องรอสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

เมื่อเวลา 04.30 น. วันนี้ (26 เม.ย.) ร.ต.ท.นันทวุฒิ ศรีอาวุธ พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนเพชรเกษม ซอย 69 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.สุรพงษ์ จงสูงเนิน ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.บวรชัย ตันสุทัตต์ สว.สส.บก.น.9 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่ตรงทางออกของปั๊มน้ำมันเอสโซ่ พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ซ สีขาวแต่งซิ่ง ทะเบียน ศจ 543 กรุงเทพมหานคร ที่กระจกหน้าติดสติกเกอร์กองบัญชาการตำรวจนครบาล จอดอยู่ในสภาพย้อนศรพังยับเยินอยู่ริมถนน โดยล้อหน้าข้างซ้ายครูดกับฟุตปาทจนยางและแม็กซ์แตกละเอียด กันชนด้านหน้ามีรอยถูกเฉี่ยวชนจนหลุดทั้งชิ้น นอกจากนี้ยังมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนรอบคัน ประกอบด้วย กระจกหน้าฝั่งคนขับ 3 รู เสาหน้ารถฝั่งคนขับ 2 รู และประตูหลังฝั่งซ้ายอีก 1 รู รวมทั้งสิ้นจำนวน 6 รู พบผู้เสียชีวิตชื่อ นายประสงค์ ครุฑปรีชาสกุล อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ เสียชีวิตอยู่ที่เบาะคนขับในสภาพสวมเสื้อคอปกสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ขาสามส่วน ใส่รองเท้าผ้าใบสีเขียวอ่อน สะพายกระเป๋าสีดำ ภายในบรรจุเงินสดประมาณ 5,000 บาท และพระเลี่ยมทอง 3 องค์ ตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. บริเวณเหนือใบหูข้างขวา 1 นัด ท่อนแขนขวาทะลุเข้าใต้รักแร้ข้างขวา อีก 1 นัด

ห่างจากจุดที่รถผู้ตายจอดออกไปทางปากซอยเพชรเกษม 69 ประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถ จยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโวเอ็มเอ็กซ์ สีดำ ทะเบียน วลย 579 กทม. ซึ่งเป็นรถของคนร้ายพลิกคว่ำติดอยู่กับล้อหน้ารถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเขียว ทะเบียน บน 4258 กรุงเทพมหานคร บนพื้นการจราจรยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่บนพื้น 3 นัด และลูกกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 6 นัด พร้อมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งคาดว่าเป็นของคนร้ายอีก 1 เครื่อง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

นายอ้วน บุญศักดิ์ อายุ 53 ปี อาชีพพ่อค้าร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ กล่าวว่า ก่อนเหตุกำลังขับรถออกจากซอย เพื่อซื้อของที่ตลาดบางแค ต่อมาเห็นรถ จยย. คันดังกล่าว ซึ่งมีผู้ขับขี่และซ้อนท้ายมาจำนวน 2 คน โดยจำได้เพียงว่าคนขับขี่สวมหมวกนิรภัย คนซ้อนท้ายไม่ได้สวมหมวก โดยรถ จยย. คันดังกล่าวได้ขับขี่ย้อนศรมาด้วยความเร็ว ลักษณะเหมือนหนีอะไรมา จากนั้นเกิดเสียหลักล้มลงจนรถ จยย. ไถลมาติดที่ล้อหน้ารถ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าทั้งสองคนน่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่รีบลุกขึ้นวิ่งไปโบกรถแท็กซี่หลบหนีไปทางปากซอย โดยไม่ทราบสีและทะเบียนรถแท็กซี่คันดังกล่าว

ต่อมา นายณรงค์ศักดิ์ งามน้ำใจ อายุ 29 ปี เพื่อนรุ่นน้องผู้ตายที่มาดูศพ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายพร้อมเพื่อนหญิงประมาณ 10 คน เดินทางไปกินดื่มสังสรรค์กันที่สถานบันเทิงเรดซี๊ด ถนนพุทธมณฑลสาย 1 กระทั่งร้านปิดก็แยกย้ายกันกลับ โดยผู้ตายขับรถเพื่อมาส่ง น.ส.พลอยนิสา ทิพย์วงศ์ อายุ 32 ปี แฟนสาวที่นั่งมาด้วยด้านหน้า และ นางอารยา อรุณธรรมสกุล อายุ 35 ปี นั่งมาตรงเบาะหลัง ที่ภายในซอยเพชรเกษม 69 ซึ่ง นางอารยาถูกกระสุนเฉี่ยวเข้าที่ข้อศอกด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งระหว่างทาง น.ส.พลอยนิสา และนางอารยา นอนหลับจึงยังไม่เห็นเหตุการณ์

พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวว่า จากการตรวจดูในที่เกิดเหตุพบร่องรอยคนร้ายขับรถ จยย. ไล่ประกบยิงรถผู้ตายมาตั้งแต่ต้นซอยเพชรเกษม 69 ระยะทางประมาณ 200-300 เมตร โดยหลังจากโดนกระสุนผู้ตายยังแข็งใจขับรถหนี กระทั่งเฉี่ยวชนกับขอบฟุตปาทจนรถพังยับเยิน แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ตายทำธุรกิจอะไร และชนวนสังหารคือเรื่องใดกันแน่เพราะทั้งแฟนสาวและเพื่อนที่นั่งมาในรถด้วยกัน ยังไม่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากนัก ต้องรอผลสอบปากคำก่อน

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อผ่าชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งสั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.ภาษีเจริญ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่สถานบันเทิง “เรดซี๊ด” ไปตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาที่ผู้ตายเข้าไปจอดรถ จนถึงเวลาเดินทางกลับว่ามีใครติดตามหรือเฝ้าสังเกตพฤติกรรมก่อนหรือไม่ เพื่อหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป