ผบช.น.แถลงจับกุม 3 วัยรุ่นก่อเหตุยิงคู่อริภายในซอยอินทามระ 23 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เผยศาลออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วทั้งหมด 7 ราย พบมีหมายจับคดียาเสพติด เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดี
ความคืบหน้ากรณีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันบริเวณปากซอยอินทามระ 23 และ 25 จนเป็นเหตุให้นายแจ็ค ยังถาวร ถึงแก่ความตายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายศรัญย์ ทรัพย์ฟูเกียรติ เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.20 น.วันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (16 เม.ย.) ที่ สน.บางซื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 ได้แถลงข่าวจับกุม นายชัยชนะ วิริยะบุศย์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 621/2557 ลงวันที่ 16 เม.ย. 2557, นายตุ้ม เมคาลัย อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 623/2557 และนายสมพงศ์ พรมงาม อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 627/2557 เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีใหญ่มีการไล่ยิงกันกลางเมืองของวัยรุ่นกลุ่มซอยอินทามระ 10 และกลุ่มซอยอินทามระ 25 ซึ่งวัยรุ่นซอยอินทามระ 10 ได้พากันเดินทางมาที่ปากซอยอินทามระ 23 และได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่วัยรุ่นกลุ่มซอยอินทามระ 25 ที่กำลังเล่นน้ำสงกรานต์อยู่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังสามารถเก็บปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และปลอกกระสุนปืมเอ็ม 3 ได้ อาวุธดังกล่าวเป็นอาวุธสงคราม ต้องเร่งจับกุมมาสืบสวนว่านำอาวุธดังกล่าวมาจากไหน เหตุใดจึงมีอาวุธดังกล่าวใช้ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 7 ราย คือ นายชัยชนะ หรือเต๋า วิริยะบุศย์ อายุ 20 ปี เคยมีประวัติถูกจับข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย เมื่อปี 2551 ในท้องที่ สน.เตาปูน, นายตุ้ม เมคาลัย อายุ 27 ปี เคยมีประวัติถูกจับข้อหาครอบครองยาเสพติด เมื่อปี 2549 ในท้องที่ สน.บางซื่อ, นายสมพงศ์ พรมงาม หรือหนู อายุ 36 ปี เคยมีประวัติถูกจับข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ในท้องที่ สน.ดินแดง ถูกจับข้อหาครอบครองยาเสพติด เมื่อปี 2554 ในท้องที่ สน.บางซื่อ และถูกจับข้อหาเสพยาเสพติดในท้องที่ สน.ดินแดง ทั้ง 3 รายได้เข้ามอบตัวแล้ว
ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 ราย คือ นายชาญณรงค์ ลี้ประเสริฐ หรือกุย อายุ 20 ปี ปัจจุบันถูกออกหมายจับศาลอาญา ที่ 622/2557 ลงวันที่ 16 เม.ย. 2557, นายชาคินทร์ ลี้ประเสริฐ หรือกาย 21 ปี เคยมีประวัติถูกจับข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ในท้องที่ สน.บางซื่อ ปัจจุบันถูกออกหมายจับศาลอาญา ที่ 625/2557 ลงวันที่ 16 เม.ย. 2557, นายกรกฏ อ่อนสุระทม อายุ 21 ปี ปัจจุบันถูกออกหมายจับศาลอาญา ที่ 624/2557 ลงวันที่ 16 เม.ย. 2557, นายสุชาติ ฤกษ์ลัคนา อายุ 25 ปี เคยมีประวัติถูกจับข้อหาครอบครองยาเสพติด และข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ในท้องที่ สน.สุทธิสาร ปัจจุบันถูกออกหมายจับศาลอาญา ที่ 626/2557 ลงวันที่ 16 เม.ย. 2557 นอกจากนี้ ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุเพิ่มอีก 4 คน คือนายกษิดิศ มนตรีพาณิชย์ หรือบอย อายุ 25 ปี, นายหนุ่ม สันติวงค์ อายุ 24 ปี, นายวัชรา เศรษฐนันท์ อายุ 20 ปี และนายปาล์ม ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง
จากการสอบสวนนายชัยชนะให้การยอมรับว่า เป็นวัยรุ่นกลุ่มอินทามระ 10 แต่ในวันที่เกิดเหตุเป็นเพียงผู้เห็นเหตุการณ์ ไม่ได้ออกไปร่วมก่อเหตุ เมื่อตนหนีกลับมาหลบที่บ้าน ปรากฏว่าวัยรุ่นกลุ่มซอยอินทามระ 25 ได้ตามมาทำร้ายร่างกายตนและพ่อแม่ถึงบ้านพัก อีกทั้งยังหยิบเอาสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทที่แม่ซื้อให้ตนไปด้วย ทั้งนี้วัยรุ่นทั้งสองกลุ่มมีเหตุทะเลาะวิวาทกันมาปีกว่าแล้วซึ่งตนก็ไม่ทราบปัญหาที่แน่ชัดว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ส่วนใหญ่จากเป็นการมองหน้าแล้วเขม่นกัน และขอยืนยันว่าตนอยู่ในกลุ่มอินทามระ 10 จริง แต่ไม่เคยเกเรไปหาเรื่องฉกต่อยใคร ปกติจะช่วยพ่อแม่ขายข้าวอยู่บ้านเท่านั้น
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวต่อว่า เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวตำรวจจะต้องประชุมวางมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวอีกในทุกพื้นที่ ในวันพรุ่งนี้จะประชุมในเรื่องนี้อีกครั้งคาดว่าคดีดังกล่าวจะคืบหน้ามาก และต้องทำความเข้าใจว่าขณะที่เจ้าหนาที่ตำรวจส่วนใหญ่ถูกส่งไปประจำจุดตรวจต่างๆ ในช่วงที่มีม็อบ ทำให้ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง
พล.ต.ต.สุรนิตย์กล่าวว่า หลังจากจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็ได้มีการวางกำลังตั้งจุดตรวจค้นอาวุธในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะมีการยกพวกไปล้างแค้นกันอีก
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุขโมยนาฬิกาหรู มูลค่า 10 ล้านบาท จากร้านมองบลังค์ ชั้นใต้ดินของห้างพรรสินค้าเกษรพลาซ่า เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) ที่ผ่านมาว่า จากข้อมูลคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นแก๊งต่างชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น.ไปดูแลคดีนี้แล้ว โดยในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนรายงานความคืบหน้าเข้ามาอีกครั้ง เนื่องจากวันนี้ยังติดช่วงวันหยุดยาว ในส่วนของการติดตามคนร้ายนั้นล่าสุด คนขับแท็กซี่ สีฟ้า ทร-6540 กทม. คันที่รับคนร้ายออกมาจากห้างเกษรพลาซ่า ได้เข้าให้ข้อมูลต่อตำรวจ สน.ลุมพินีแล้ว โดยระบุว่าหลังจากรับคนร้ายออกมาแล้วได้ไปส่งคนร้ายที่ย่านจุฬา ก่อนที่คนร้ายจะเดินทางต่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิทันที
