แก๊งต่างชาติโจรกรรมนาฬิกายี่ห้อหรู มูลค่าร่วม 10 ล้าน ในห้างดังแยกราชประสงค์ ก่อนขึ้นรถแท็กซี่หลบหนี ตำรวจเปิดกล้องวงจรปิดพบคนร้ายคล้ายชาวตะวันออกกลาง หยิบฉวยนาฬิกาขณะที่พนักงานในร้านเผลอ
เมื่อเวลา 18.30 น. วานนี้ (15 เม.ย.) พ.ต.ท.สมเกียรติ์ พลอยทับทิม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายขโมยนาฬิกาหรูภายในห้างสรรพสินค้าเกษร พลาซ่า แยกราชประสงค์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี
ที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยี่ห้อมองต์บลัง มีพื้นที่ทั้งหมดสามคูหา ตั้งอยู่ชั้นจีของห้างดังกล่าว จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นเวลาที่ทางร้านเปิดทำการอยู่ ได้มีคนร้ายเป็นชายชาวต่าง จำนวน 3 คน ได้เข้ามาทำทีขอดูนาฬิกาหรูยี่ห้อมองต์บลังที่ตั้งโชว์อยู่ในตู้ จากนั้นคนร้ายได้ขอดูนาฬิกาจำนวน 4 เรือน และพูดคุยกับพนักงานโดยใช้ภาษาจีนสำเนียงเวียดนามในการสื่อสารเรื่องการชำระเงิน ก่อนที่คนร้ายอีกคนจะเดินไปที่ตู้เก็บนาฬิกา โดยที่ตู้มีกุญแจเสียบคาอยู่และไม่มีพนักงานเฝ้า คนร้ายจึงได้ไขกุญแจและหยิบนาฬิกายี่ห้อมองต์บลัง มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ออกไปแล้วปิดตู้ไว้อย่างเดิม หลังจากนั้นคนร้ายได้เดินออกจากร้านไปขึ้นแท็กซี่สีฟ้าหมายเลขทะเบียน ทร 6540 กทม. หลบหนีออกไป
พ.ต.ท.สมเกียรติ์ กล่าวว่านาฬิกายี่ห้อมองต์บลังเป็นนาฬิกาที่มีอยู่ 8 เรือนในโลก และที่ประเทศไทยมีอยู่เพียง 1 เรือนเท่านั้น ซึ่งได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดของทางร้าน พบว่ามีคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ 3 คน ลักษณะคล้ายชาวตะวันออกกลาง ซึ่งคนร้ายที่พูดคุยถ่วงเวลากับพนักงานเป็นชายสวมเสื้อยืดสีครีม ผมสั้น สวมกางเกงขายาวสีดำ ส่วนคนร้ายที่ฉกนาฬิกาสวมเสื้อยืดคอกลมสีครีม มีลายจุด กางเกงขายาว รองเท้าหนังสีดำ สะพายกระเป๋าสีดำ ตัดผมสั้นเกรียนติดหนังหัว โดยระหว่างที่เพื่อนคนร้ายอีกคนกำลังพูดคุยดึงดูดความสนใจพนักงานอยู่นั้น คนร้ายที่ตัดผมสั้นเกรียนได้เดินไปที่ตู้เก็บนาฬิกาแล้วเปิดตู้หยิบนาฬิกาใส่กระเป๋าสะพายที่เตรียมมา พร้อมทั้งเก็บกุญแจใส่กระเป๋าไปด้วย หลังจากนั้นจึงเดินกลับมาที่เพื่อนอีกคนก่อนหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำพนักงานในร้าน พยานแวดล้อมอย่างละเอียด และติดตามรถแท็กซี่ที่รับคนร้ายไปมาสอบปากคำว่าไปส่งที่ไหน โดยเบื้องต้นทราบว่าแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นของอู่ไทยเอส ลิสซิ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
