ฝากขังทีมสังหารครอบครัว “หอมชง”

ตำรวจ สน.หลักสอง นำตัวผู้ต้องหาทีมสังหารครอบครัว “หอมชง” หาหลักฐานเพิ่มตามพื้นที่ต่างๆ ก่อนนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาธนบุรีทันที

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ สน.หลักสอง พ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ ผกก.สน.หลักสอง พ.ต.ท.สมชาย นาคสอิ้งศาสน์ พงส.ผนพ.สน.หลักสอง ได้ควบคุมตัว นายสิริชัย เพิ่มพูลศักดิ์ ออกจากห้องควบคุม มาสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อออกติดตามพยานหลักฐาน ระหว่างนายสิริชัย กับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ว่าไปอยู่บริเวณไหนทั้งก่อนลงมือก่อเหตุ และหลังลงมือก่อเหตุแล้วหลบหนีไปจุดไหนอย่างไร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

โดย พ.ต.อ.ภาณุเดช เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนวนการสอบสวนและพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและวัตถุพยาน เรามีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะวัตถุพยานที่สำคัญคือ อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เราก็ติดตามมาได้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องตามเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดจุดที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไปพบเจอกันบริเวณไหนบ้าง โดยเฉพาะที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดต่างๆ ออกติดตามแล้ว เพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ให้แน่นหน้าขึ้นไปอีก สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อคดีขณะนี้สามารถติดตามจับกุมได้ครบหมดแล้ว โดยนายกิตตินันท์ และนายศักรินทร์ จะต้องถูกดำเนินคดีใช้จ้างวานให้ผู้อื่นฆ่าคนตาย ส่วนนายฉลาด นายสุระพังษ์ และนายสิรชัย ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาในช่วงบ่ายพนักงานสอบสวน ก็จะนำตัวนายสิริชัย ไปฝากขังยังศาลอาญาธนบุรี โดยพนักงานสอบสวนแนบคำร้องขอคัดค้านการประกันตัว

พ.ต.อ.ภาณุเดช กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่คนในครอบครัวผู้เสียชีวิต ติดใจในประเด็นที่ว่านายกิตตินันท์ ไม่น่าจะเป็นผู้จ้างวานให้คนรายมาฆ่าพ่อแม่และพี่ชายตัวเองนั้น ก็เป็นส่วนในความคิดของเขา แต่ตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน และพยานหลักฐานก็มุ่งไปที่นายกิตตินันท์ เนื่องจากกลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุเพียง 10 นาที ดังนั้นกลุ่มคนร้ายจึงน่าจะมีการวางแผนมากันเป็นอย่างดี มีการนัดแนะกันมา และยังให้การรับสารภาพแล้วว่า นายกิตตินันท์และนายศักรินทร์ เป็นผู้ว่าจ้างโดยไม่ทราบว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน และผู้ได้ประโยชน์มากที่สุดคือใครก็น่าจะทราบ ดังนั้นตำรวจจึงต้องดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน

จากนั้นเวลา 13.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจู่โจม สน.หลักสอง จำนวน 4 นาย พร้อมอาวุธครอบมือ ได้ควบคุมตัวนายสิริชัย ไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี เพื่อทำการฝากขัง โดย นายสิริชัย ยังมีสีหน้าเป็นปกติ ก่อนเปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการร์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่รู้ว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว โดยส่วนตัวตนอยากให้ครอบครัวอื่นๆ รักลูกๆ ให้เท่าเทียมกัน ไม่อยากให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นอีก