สมุทรปราการ - สภ.บางปู รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่บ่อขยะแพรกษา จ.สมุทรปราการอีกครั้ง เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมเพลิง ชาวบ้านขวัญผวาหนีอลหม่าน ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้สำเร็จ นายก อบต.แพรกษา ตั้งยข้อสังเกตุอาจถูกแอบลอบววางเพลิง สั่งจัดเวรยามเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 10 วัน ด้านสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการประเมินผลกระทบไม่น่าเกิดกับประชาชน
เมื่อเวลา 04.00 วันนี้ (8 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางปู จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะภายในซอย 8 แพรกษาหมู่ 4 ตำบลบางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ใกล้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู ที่เกิดเหตุเป็นบ่อขยะที่เคยเกิดไฟไหม้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเพลิงได้ลุกไหม้ที่บริเวณกลางบ่อด้านหลังห่างจากบ้านพักอาศัยประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลแพรกษาใหม่ และเทศบาลใกล้เคียงกว่า 10 คันได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้าง กลุ่มควันทั้งสีดำและสีขาวจำนวนมากพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจำนวนมาก ชาวบ้านต่างพากันหวาดผวาเกรงว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอย ต่างพากันจัดเตรียมเสื้อผ้าใส่กระเป๋าพร้อมของมีค่าเตรียมอพยพทันทีหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ระดมรถน้ำและอุปกรรณ์ในการดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลาม
นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นเวลา 04.00น.ของเช้าวันนี้ แต่จุดที่เกิดเพลิงไหม้นั้นค่อนข้างมืดและเกิดขึ้นตรงจุดกึ่งกลางค่อนไปทางท้ายบ่อห่างกันเพียง200เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถปฏิบัติงานได้ทันที เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตราย หากบ่อขยะทรุดตัว จึงต้องรอให้เช้า จากนั้นจึงดำเนินการลากสายท่อน้ำเข้าฉีดใช้เวลาราว 4 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้จนเหลือแต่ควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ด้านล้างกองขยะนั้นยังคงมีคุกรุ่นอยู่ เจ้าหน้าที่จึงต้องฉีดนำเลี้ยงไว้ตลอดเวลา และจากการตรวจสอบเบื้องต้นหลังเพลิงสงบพบว่าเพลิงได้ลุกไหม้กินพื้นที่ราว500 ตารางวา
ต่อมาเวลา 12.30น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้สำเร็จเพลิงลุกไหม้บ่อขยะได้สงบลง โดยนายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้สั่งการให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ประสานขอรถจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำรถน้ำมาประจำตามจุดต่างๆในบ่อขยะและติดตั้งหัวฉีดเพื่อทำการฉีดน้ำพรมให้ทั่วพื้นที่กว่า100ไร่ ตลอด 24ชม.เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอาจทำให้เกิดการลุกไหม้ขึ้นอีกได้ ส่วนกรมควบคุมมลพิษ ได้ทำการวัดค่าสารอินทรีย์ระเหยในอากาศหลังเกิดเพลิงไหม้บริเวณท้ายบ่อขยะ ตรงจุดที่เกิดเพลิงไหม้ พบว่ามีค่าเป็นศูนย์ไม่เป็นอันตราย
ด้านนาย อิม แพหมอ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษา ระบุว่า ตนตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ว่า อาจเป็นการลอบวางเพลิง เนื่องจากภายหลังเพลิงสงบ ตนได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเฝ้าระวังเพลิงไหม้ตลอด 24ชม.เป็นระยะเวลา 10วัน และได้ทำการถอนกำลังและเครื่องมือทั้งหมดออกไปได้เพียง 3 วันกลับเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นอีก รวมทั้งยังเป็นการลุกไหม้ในเวลากลางคืนที่มีอากาศเย็น อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงนั้นคงต้องรอผลพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานที่จะเข้าตรวจสอบหลังเพลิงสงบ และผลการสอบสวนของตำรวจภูธรบางปู อีกครั้ง
คาดไม่เกินบ่ายนี้ดับไฟบ่อขยะแพรกษาได้ทั้งหมด หลังปะทุอีกเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา แพทย์ระบุควันไฟที่เกิดขึ้นไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ยังเดินหน้าเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เผยผลตรวจสุขภาพนักข่าว นักผจญเพลิง ยังไม่พบผิดปกติ
ด้าน นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) สมุทรปราการ กล่าวถึงสถานการณ์บ่อขยะแพรกษา จ.สมุทรปราการ เกิดเหตุไฟไหม้ปะทุอีกครั้งว่า ตนได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่กับผู้ว่าฯ สมุทรปราการแล้วเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ขณะนี้ไฟดับเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงควันจางๆ เท่านั้น คาดว่าไม่เกินช่วงบ่ายจะสามารถดับไฟได้ทั้งหมด ส่วนควันไฟที่พวยพุ่งขึ้นมาเมื่อตอนปะทุนั้น จากการประเมินไม่น่าเกิดผลกระทบกับประชาชน
ทั้งนี้การเฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพยังดำเนินการอยู่ โดยที่ผ่านมามีกลุ่มเสี่ยงสูง อาทิ นักผจญเพลิง นักข่าว เป็นต้น เข้ามาตรวจสุขภาพที่ รพ.สมุทรปราการ โดยผลตรวจปอด ตับ และไต ไม่มีความแตกต่างจากประชาชนปกติทั่วไป ส่วนการตรวจโลหะหนักนั้นยังไม่ทราบผล เพราะยังต้องใช้เวลาในการตรวจ อย่างไรก็ตามกลุ่มเสี่ยงที่มีรายชื่อทั้งหมด ยังมาตรวจสุขภาพไม่ครบ คาดว่าบางรายอาจคิดว่าเข้าไปในพื้นที่ไม่มากจึงไม่คิดว่าจำเป็นต้องมาตรวจ
