อุทธรณ์ยืนคุกตลอดชีวิต หนุ่มค้ายาขับรถทับตำรวจดับ

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิตหนุ่มค้ายาบ้า ขับรถทับรองสารวัตรสืบสุทธิสารเสียชีวิต ขณะเข้าล่อซื้อเมื่อปี 2555 และให้ชดใช้เงินให้ครอบครัวผู้ตาย 1.6 ล้านบาท

ที่ห้องพิจารณาคดี 805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (8 เม.ย.) ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.1002/2555 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอลงกรณ์ เริ่มประชาธิปไตย อายุ 27 ปี และ น.ส.ปรียานุช พุฒิกรณ์ อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ตามลำดับ ในความผิดฐานฆ่าและพยามฆ่าเจ้าพนักงาน

โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2555 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองมียาบ้าจำนวน 200 เม็ด และยาไอซ์จำนวน 4 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จากนั้นตำรวจ สน.สุทธิสารได้ล่อซื้อยาเสพติดจากจำเลยภายในซอยลาดพร้าว 48 จำเลยทั้งสองได้ขับรถยนต์มาสด้า 2 ทะเบียน ฎฟ-7874 กทม. ต่อมาจำเลยที่ 1 รู้ตัวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าจับกุมจึงขับรถหลบหนีและพุ่งชนจักรยานยนต์ ทะเบียน สธม 279 กทม. ซึ่งมี ส.ต.ท.ศิรวิทย์ รวมจิตร เป็นผู้ขับขี่ และ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ดาวเรือง รอง สว.สส.สน.สุทธิสาร นั่งซ้อนท้าย จนทับร่างของ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์เสียชีวิต ส่วน ส.ต.ท.ศิรวิทย์ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระทั่งหลังเกิดเหตุตำรวจสามารถจับกุมจำเลยทั้งสองได้พร้อมของกลางยาเสพติด ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ แต่ปฏิเสธสู้คดีในชั้นศาล เหตุเกิดแขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.และ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขอให้ศาลลงโทษ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ลงโทษหนักสุดให้ประหารชีวิต ลงโทษฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ให้จำคุก 14 ปี ปรับเงินจำนวน 7.5 แสน แต่จำเลยให้การรับสารภาพฐานมียาเสพติดฯ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 7 ปี ปรับเงินจำนวน 3.75 แสนบาท ฐานฆ่าเจ้าพนักงานฯ จำเลยให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต และปรับเงินจำนวน 3.75 แสนบาท ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินค่าไร้ผู้อุปการะและค่าใช้จ่ายในการทำศพ จำนวน 1.64 ล้านบาท และให้ริบยาเสพติดของกลาง ส่วนจำเลยที่ 2 ลงโทษฐานมียาเสพติด ให้จำคุก 14 ปี ปรับเงินจำนวน 7.5 แสนบาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 7 ปี ปรับเงิน 3.75 แสนบาท

ต่อมาจำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลลดโทษ ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์มีประจักษ์พยานเบิกความสอดคล้องต้องกัน พิพากษายืนให้จำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต ปรับเงิน 3.75 แสนบาท และให้ชำระเงินเงินค่าไร้อุปการะและค่าใช้จ่ายในการทำศพ จำนวน 1.64 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้มีบิดาของนายอลงกรณ์ ได้เดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษาด้วย พร้อมเปิดเผยเพียงสั้นๆว่า หลังจากนี้จะเตรียมยื่นฎีกาคำพิพากษาต่อไป ในประเด็นที่ว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า