ชาวบ้านซอยประจักษ์ศิลป์ขวัญผวา เจอระเบิดอาร์พีจีซุกอยู่ใต้ต้นไม้ในป่าละเมาะแจ้งอีโอดีรีบตรวจสอบและเก็บกู้หวั่นเป็นเหมือนกรณีระเบิดสยองกลางกรุงที่ซอยลาดปลาเค้า 72
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (4 เม.ย.) พ.ต.ท.คมสัน เลขาวิจิตร สวป.สน.ยานนาวา ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ยานนาวา ว่าชาวบ้านในซอยจันทน์ 18/7 แยก 23 หรือซอยประจักษ์ศิลป์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. พบลูกระเบิดคล้ายอาร์พีจี (RPG) จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สินเลิศ สุขุม ผกก.สน.ยานนาวา พ.ต.ท.สัญชัย มาตรคำจันทร์ รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี)
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางเมตร เลขที่ 247 หรือ 34 มีรั้วล้อมรอบไว้ บริเวณด้านหลังใกล้กับกำแพงของบ้านข้างเคียงพบลูกระเบิดคล้ายอาร์พีจี เจ้าหน้าที่จึงนำยางรถยนต์มาครอบไว้เพื่อความปลอดภัย ต่อมาเจ้าหน้าที่อีโอดีได้เข้าไปตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุดังกล่าว พบว่าเป็นลูกระเบิดที่ใช้ยิงกับปืน ค.เอ็ม 81 ซึ่งอยู่ในสภาพชนวนหัวไม่มีดินระเบิด ส่วนชนวนท้ายมีดินระเบิดหลงเหลืออยู่เล็กน้อย โดยรวมแล้วระเบิดไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งระเบิดชนิดดังกล่าวมีใช้ในหน่วยงานราชการทหารและตำรวจของประเทศไทย โดยเฉพาะในหน่วยรบขนาดเล็ก
จากการสอบถามนายวิวัฒน์ ธำรงธรรมวงศ์ อายุ 60 ปี ผู้พบระเบิดกล่าวว่า บ้านตนมีกำแพงติดกับพื้นที่ว่างเปล่าแห่งนี้ ซึ่งเจ้าของได้รื้อถอนบ้านออกหมดเหลือเพียงที่เปล่าได้ประมาณ 1 ปีกว่าๆ แล้ว เพื่อไปอยู่ต่างประเทศ โดยในช่วงบ่ายของวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนนำปูนมาซ่อมแซมรอยแตกร้าวของกำแพง โดยเข้ามาในพื้นที่ว่างเปล่า ระหว่างที่ตนกำลังโบกปูนเพื่อซ่อมแซมกำแพงบ้าน ได้สังเกตเห็นหางของลูกระเบิด และเข้าใจว่าเป็นระเบิดอาร์พีจี เพราะเคยเห็นในภาพยนตร์สงคราม ลักษณะซุกอยู่ใต้เศษไม้ โดยคิดว่าระเบิดคงเสื่อมสภาพไม่ทำงานจึงหยิบมาดูและวางไว้
นายวิวัฒน์กล่าวต่อว่า เมื่อตนเห็นข่าวระเบิดเก่าที่ร้านรับซื้อของเก่าระเบิดย่านลาดปลาเค้า จึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อ 3 วันก่อนเจอลูกระเบิดดังกล่าวและยังหยิบขึ้นมาดู จึงกลัวว่าจะเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอยกับที่ลาดปลาเค้า ประกอบกับเจ้าหน้าที่เขาประชาสัมพันธ์ให้แจ้งตำรวจหากเจอระเบิดหรือวัตถุคล้ายระเบิด จึงรีบออกไปบอกตำรวจจราจรให้ช่วยแจ้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเก็บกู้ระเบิดดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บลูกระเบิดดังกล่าวกลับหน่วยอีโอดีเพื่อตรวจสอบและทำลายทิ้งต่อไป
