พี่เขยตัวแสบโผล่ รับสารภาพแอบอ้างชื่อโชเฟอร์แท็กซี่ก่อคดีลักทรัพย์จนถูกศาลตัดสินจำคุก อ้างเหตุที่สวมชื่อเพราะอดีตเคยถูกออกหมายจับคดีพยายามฆ่าเมื่อหลายสิบปีก่อน
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. นายอัจฉริยะ เรื่องรัตนพงศ์ ประธานชมรมเหยื่ออาชญากรรม ได้นำนายสมศักดิ์ วงษ์ใหญ่ อายุ 53 ปี คนขับรถแท็กซี่ และนายเทียน ด้วงสง อายุ 71 ปี อดีตพี่เขย มาพบสื่อมวลชนประจำกองปราบปราม เพื่อชี้แจงกรณีนายเทียนนำชื่อนายสมศักดิ์ไปแอบอ้าง หลังก่อคดีลักพระพุทธรูปวัดเกาะตาล อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และถูกตำรวจ สภ.นครชัยศรี จับกุมเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2554 จากนั้นศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 7 ปี 6 เดือน โดยคดีนี้ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ทั้งที่นายสมศักดิ์ไม่ได้กระทำผิดและเพิ่งทราบเรื่องถูกแอบอ้างชื่อเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาขณะไปต่อใบขับขี่
นายอัจฉริยะกล่าวว่า นายเทียนถูกตำรวจกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์ แต่ได้แอบอ้างชื่อ นายสมศักดิ์กับตำรวจ จากนั้นตนก็ต่อสู้คดีความโดยใช้ชื่อนายสมศักดิ์มาจนถึงชั้นอุทธรณ์ โดยนายสมศักดิ์ไม่ทราบเรื่องในการถูกแอบอ้าง จนกระทั่งไปทำใบขับขี่ ทางฝ่ายทะเบียนได้แจ้งว่านายสมศักดิ์มีคดีติดตัว จากนั้นก็ไปหานายเทียนซึ่งได้รับประกันตัวเพื่อให้นายเทียนไปแก้ชื่อตัวเอง ซึ่งนายเทียนก็ยินยอม โดยให้ทนายยื่นเรื่องต่อศาลขอแก้ไขชื่อให้ถูกต้อง ซึ่งศาลจะไต่สวนพรุ่งนี้ (26 มี.ค.)
ด้านนายเทียนกล่าวว่า สาเหตุที่ตนต้องแอบอ้างชื่ออดีตน้องเขยก็เพราะตนเกรงว่า ตำรวจจะสืบค้นประวัติเก่าของตนซึ่งเคยถูกออกหมายจับในคดีร่วมพยายามฆ่าเมื่อสิบกว่าปีก่อน และขณะถูกจับกุมตนทำบัตรประชาชนหายพอดี จึงทำการสวมชื่อ นอกจากนี้ ทางประวัติแฟ้มอาชญากรรมก็ไม่ตรวจสอบลายนิ้วมือให้ถี่ถ้วนอีกด้วย