ดีเอสไอลุยสอบไฟไหม้บ่อขยะที่ ต.แพรกษา กว่า 150 ไร่ หลังพบมีการลักลอบนำกากขยะพิษมาทิ้ง โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบมีกากขยะอุตสาหกรรมเตรียมเสนอเป็นคดีพิเศษ ด้านผู้ว่าฯสมุทรปราการ ระบุอีก 5 วัน ดับไฟได้
วันนี้ (18 มี.ค.) พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีไฟไหม้บ่อขยะกว่า 150 ไร่ ที่ ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเพลิงไหม้บ่อขยะ ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากกรณีดังกล่าวเคยมีชาวบ้านมาร้องเรียนให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบ หลังพบมีการลักลอบนำกากขยะพิษมาทิ้งส่งกลิ่นเหม็นและก่อมลภาวะ ซึ่งที่ผ่านมาจากการตรวจสอบของดีเอสไอพบว่าการขออนุญาตทิ้งขยะในจุดดังกล่าวยังอยู่ในการตอนการยื่นขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงไม่สามารถจะนำขยะไปทิ้งได้ หลังจากนี้ดีเอสไอจะตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำขยะไปทิ้ง เพื่อเรียกตัวมาสอบสวนต่อไป ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบขยะในจุดดังกล่าว พบว่าส่วนใหญ่เป็นขยะชุมชน แต่มีขยะจากอุตสาหกรรมส่วนหนึ่ง ดีเอสไอจึงจะให้ผู้เชี่ยวชาญเก็บตัวอย่างขยะไปตรวจสอบว่าเป็นขยะกากสารพิษอุตสาหกรรมหรือไม่ หากผลการตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบทิ้งกากขยะอุตสาหกรรมจำนวนมาก จะพิจารณาเสนอเป็นคดีพิเศษต่อไป โดยวันพรุ่งนี้ดีเอสไอจะลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง
ด้าน นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผวจ.สมุทรปราการ กล่าวถึงสถานการณ์เพลิงไหม้บ่อขยะใน ม.4 ต.แพรกษา อ.เมือง ว่า ขณะนี้การดับเพลิงมีความคืบหน้าไปมาก โดยไม่มีเปลวไฟแล้ว เหลือแต่เพียงกลุ่มควันละการคุกรุ่นของไฟที่อยู่ด้านใต้กองขยะ จึงขอการสนับสนุนรถจุดตักสะเทินน้ำสะเทินบกจากกรมชลประทานเพิ่มอีกรวมเป็น 4 คันเพื่อใช้ขุดตักขยะขึ้นมาและลากสายน้ำไปฉีด ซึ่งเป็นวิธีการเดียวที่จะทำให้ดับสนิท รวมถึงช่วงบ่ายของวันนี้ เฮลิคอปเตอร์ของกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็จะปฏิบัติการใช้น้ำโปรยปูพรมในจุดที่ยังมีการคุกรุ่นของไฟ เพื่อลดปริมาณออกซิเจนไม่ให้ปฏิกิริยาจนเกิดเปลวไฟขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งนี้หากดำเนินการตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 5 วันก็จะสามารถดับไฟได้ทั้งหมด
ด้าน นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากกลุ่มควันและกลิ่นที่เกิดจากการเผาไหม้ของกองขยะ ทำให้เกิดสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 จึงอยากให้กรมควบคุมมลพิษช่วยวัดค่าดังกล่าวด้วย เนื่องจากมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรคและกรมสุขภาพ เข้าพูดคุยกับ ปชช.ที่ได้รับผลกระทบแล้ว และภายหลังจากประชุมร่วมกับกรมควบคุมโรคแล้ว จะดำเนินการคัดแยก ปชช.ออกเป็น 2 ส่วน โดยเฉพาะนักผจญเพลิง และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับจุดที่เกิดการเผาไหม้ เพื่อติดตามดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระแสลมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ประชาชน ที่อาศัยอยู่ใน อบต.แพรกษาใหม่ ได้รับผลกระทบแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าพื้นที่ประชาสัมพันธ์และแจกหน้ากากป้องกัน