อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “ร.ต.อ.เจษฎา” อดีตรอง สว.สืบห้วยขวาง ยิงทหารเรือเสียชีวิตปี 53 เหตุขับรถปาดหน้า ระบุหลักฐานไม่เพียงพอ จึงยกประโยชน์สงสัยให้จำเลย
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 803 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ. 841/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.อ.เจษฎา เจตภรณ์ อายุ 31 ปี อดีตรอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2553 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด ขนาด หมายเลขทะเบียน และกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 3 นัด ขณะจำเลยขับรถยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน 1818 กทม. แล้วยิงประทุษร้าย น.อ.วุฒิชัย บุญฤทธิ์ สังกัดกรมกำลังพลทหารเรือ พระราชวังเดิม ที่บริเวณศีรษะทะลุด้านหลัง ขณะขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีน้ำเงินเทา หมายเลขทะเบียน ลษ 4811 กทม. จนถึงแก่ความตาย บริเวณตรงข้ามโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ถ.รัชดาภิเษกฝั่งขาออก แขวงเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร สาเหตุเพราะขับรถปาดหน้ากัน ก่อนหลบหนีไป ต่อมาวันที่ 19 พ.ย. 2553 เจ้าหน้าที่จับกุมจำเลยได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และมาตรา 374, พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 จำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลย เนื่องจากพยานไม่สามารถจดจำใบหน้า รูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้ว่าเป็นคนเดียวกับจำเลยหรือไม่ ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่ได้นำปืนที่ใช้ก่อเหตุมาตรวจหารอยเขม่าดินปืนและตรวจวิถีกระสุน พยานหลักฐานไม่เพียงพอว่าจำเลยเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงผู้ตาย ศาลจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ ต่อมาได้รับการประกันตัวชั่วคราว ขณะเดียวกันอัยการโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์
โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะระบุได้ชัดเจนว่าจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุยิงผู้ตาย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2556 ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.850/2554 ที่ ร.ต.อ.เจษฎา เจตภรณ์ อดีตรอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง เป็นจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่านายมณเฑียร จิตตระกูล โชเฟอร์แท็กซี่ สาเหตุเกิดจากขับรถปาดหน้ากัน เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ซึ่งก่อนหน้านี้คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 10 ปี