บช.ปส. จับแก๊งยาบ้าลำเลียงจากประเทศลาวมุ่งหน้า จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีรถนำทางและคุ้มกันจำนวน 5 คัน รวบผู้ต้องหาได้ 9 คน ยึดของกลางยาบ้าตราเพชร 3 ล้านเม็ด ซึ่งได้หายสาบสูญไปจากวงการยาเสพติดกว่า 10 ปี
วันนี้ (16 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด พร้อม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายกรทอง ลีสายเลิศ หรือนายจีเป้ง แซ่ลี อายุ 26 ปี ชาวจ.พะเยา, นายแสง อย่างรุ่งโรจน์เชิด อายุ 24 ปี ชาว จ.ตาก, นายวีระยุทธ เลิศวลีศิลป์ อายุ 27 ปี ชาว จ.เชียงราย, นายอัมรินทร์ เลิศพิทักษ์ภราดร อายุ 33 ปี ชาว จ.พะเยา, นายสมชาย วรัญญูนุกุล อายุ 38 ปี ชาวจ.พะเยา, นายสมพร แซ่ล่อ อายุ 28 ปี ชาว จ.เชียงราย, นายสมศักดิ์ แซ่ซ้ง อายุ 20 ปี ชาว จ.พะเยา, นายวีรศักดิ์ สหเจริญชัย อายุ 20 ปี ชาว จ.พะเยา และนายทรงชัย แซ่ม้า อายุ 31 ปี ชาว จ.ตาก พร้อมของกลางยาบ้า 3,000,000 เม็ด รถยนต์ จำนวน 5 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง โดยจับกุมได้บริเวณถนนสามัคคีชัย ต.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
พล.ต.ต.ภาณุเดชกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากศูนย์สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สืบทราบว่ามีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ซึ่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางประเทศลาว เข้าสู่ประเทศไทย บริเวณแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระทั่งก่อนเกิดเหตุได้รับการประสานจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ว่ากลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดเป็นกลุ่มชาวเขาเผ่าม้ง อ.ภูซาง จ.พะเยา ร่วมกับชาวเขาเผ่าม้ง จ.ตาก และจ.เชียงใหม่ จะลำเลียงยาเสพติดแนวชายแดน อ.ท่าลี่ จ.เลย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ พล.ต.อ.สมยศจึงได้สั่งการให้ตำรวจเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา กระทั่งวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบรถยนต์เป้าหมายทั้ง 5 คันวิ่งออกมาจากแนวชายแดน อ.ท่าลี่ จ.เลย ผ่าน อ.ภูเรือ อ.ด่านซ้าย จ.เลย มุ่งหน้าเข้าเขต อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยรถยนต์ทั้ง 5 คันจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำและติดตามคุ้มกัน เมื่อมาถึงบริเวณถนนสามัคคีชัย ต.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมรถกระบะอีซูซุ สีเทา ทะเบียน 1 ฒก 4523 กทม. ซึ่งมีนายกรทองและนายแสง ขับและนั่งมาในรถ ตรวจสอบพบยาบ้าของกลางบรรจุอยู่ในกระสอบจำนวน 15 กระสอบ อยู่บริเวณกระบะท้ายรถ นอกจากนี้ สามารถตามจับกุมรถทั้งหมดอีก 4 คันที่ใช้ในการคุ้มกันและสำรวจเส้นทางไดอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ระหว่างการจับกุมนายสุชาติ แซ่หว้า อายุ 31 ปี ชาว จ.ตาก ซึ่งขับรถกระบะอีซูซุ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้จอดรถและหลบหนีไปได้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขนยาเสพติดดังกล่าวมาจากแนวชายแดน อ.ท่าลี่ จ.เลย ไปส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะมีคนมารับช่วงต่อ โดยทำมาแล้ว 4 ครั้ง
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ขณะนี้ขบวนการลำเลียงยาเสพติดได้มีการเปลี่ยนเส้นทางการลำเลียงจากเดิมที่ใช้เส้นทางแนวชายแดนภาคเหนือเป็นหลัก มาใช้เส้นทางภาคอีสาน ซึ่งติดกับแนวชายแดนประเทศลาว นอกจากนี้ยังพบว่าส่วนใหญ่จะเข้ามาทาง อ.ท่าลี จ.เลย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวแม่น้ำโขงแคบและตื้นเขิน โดยหลังจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมได้สั่งการให้ขยายผลการจับกุมว่ามีการตั้งโรงงานบรรจุหีบห่อที่ประเทศลาวด้วยหรือไม่ เนื่องจากยาบ้าล็อตนี้เป็นตราเพชร ซึ่งตำรวจไม่ได้จับกุมยาบ้ายี่ห้อนี้มากว่า 10 ปีแล้ว เพราะส่วนใหญ่ที่จับกุมได้ในขณะนี้เป็นยาบ้าตรามือซึ่งผลิตจากโรงงานของ พ.ท.ยี่เซ ขณะที่ยาบ้าตราเพชรเดิมทีขบวนการลำเลียงยาเสพติดชาวม้งจะเป็นผู้ที่ขนยาบ้ายี่ห้อนี้เข้ามาในประเทศไทย แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะรับมาจากโรงงานย่อย นอกจากนี้ให้วิเคราะห์ว่าเป็นยาบ้าชนิดเดียวกับยาบ้าที่ผลิตจากโรงงาน พ.ท.ยี่เซหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ปลายเดือนนี้จะมีการเชิญเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.พม่า และลาว เจ้าแขวงสุวรรณเขต มาหารือร่วมกันในการวางแผนบูรณาการในการป้องกันการลำเลียงยาเสพติด จากแนวชายแดนประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูแล้งซึ่งแม่น้ำโขงลดระดับลงทำให้ขบวนการยาเสพติดสามารถขนยาเสพติดเข้ามาได้ง่าย