ผู้สมัคร ส.ส.หญิงพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.หญิงพรคคเพื่อไทย เข้าพบ ผบช.น.สอบถามมาตรการดูแลความสงบช่วงสถานการณ์การชุมนุมการเมือง พร้อมร้องขอความเป็นธรรมให้ พนง.บริษัทเอกชนตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุรุนแรงระหว่างการชุมนุมโดยอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ยันผู้ต้องหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาคดี
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (14 มี.ค) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานชมรมเสียงสตรีแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาชิกชมรมเสียงสตรีแห่งประเทศไทย และน.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เพื่อสอบถามเกี่ยวกับมาตรการในการดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง
นางลดาวัลลิ์กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ตนและทางชมรมเสียงสตรีจึงอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังอยากเห็นความเป็นธรรมเกิดขึ้นในสังคม ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของนายมารุต นวลจันทร์ พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยขับรถยนต์ผ่านเข้าไปในพื้นที่การชุมนุมบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยนายมารุตและภรรยาเคยออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงเลย ซึ่งตนอยากให้มองผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะตัดสินว่าบุคคลนั้นผิดจริง ซึ่งตนอยากจะขอร้องให้ผู้ชุมนุมอย่าใช้อารมณ์ในการชุมนุม ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมให้แจ้งมาที่ชมรมเสียงสตรีแห่งประเทศไทยได้
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอยืนยันว่าได้มีมาตรการในการดูแลสถานการณ์ทางการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง มีการตั้งด่านตรวจยังจุดต่างๆ เพื่อป้องกันและปราบปรามการก่อเหตุรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งยืนยันว่าจะทำการจับกุมหมดหากกระทำความผิดจริง โดยไม่เลือกว่าเป็นฝ่ายใด ส่วนกรณีหากมีการเกิดเหตุในพื้นที่การชุมนุม เจ้าหน้าที่อาจจะเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ช้า เนื่องจากต้องมีการประสานกับแกนนำก่อน ซึ่งการประสานงานกับตัวแกนนำนั้นเป็นไปได้ด้วยดี โดยการก่อเหตุช่วงนี้ก็เริ่มเบาบางลง และในกรณี ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต หรือหมวดเจี๊ยบ ที่ถูกทางการ์ด กปปส.ควบคุมตัวไปขณะไปทำธุระส่วนตัวที่บริเวณสยาม ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกในเวลาต่อมานั้น ก็คงต้องว่าไปตามผิด โดยยืนยันว่าจะสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาไม่มีการสร้างหลักฐานเท็จแน่นอน ซึ่งกรณีที่มีการนำเด็กเข้าไปในสถานที่ชุมนุม ตนอยากจะขอร้องว่าอย่าเอาเด็กเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์อันตราย ทั้งนี้ในสายตาของตนนั้น ยืนยันว่าการเจรจานั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เมื่อ น.ส.ลีลาวดีสอบถามเกี่ยวกับกรณีกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นกล้องจำลอง หรือกล้องดัมมี เป็นส่วนมากจะมีแนวทางในการดูแลอย่างไร พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า กรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานจากประชาชน ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร ให้เพิ่มจำนวนกล้องอีก 1 จุด ให้บริเวณถนนซึ่งจะเห็นรถที่ผ่านไปมา และเพื่อเป็นการช่วยในการสอดส่องผู้กระทำความผิดในกรณีต่างๆ ซึ่งแนวโน้มในการก่อเหตุปล้นทรัพย์ นั้นมีมากขึ้น เนื่องจากสายตรวจที่เช้าไปตรวจสอบดูแลความเรียบร้อยนั้นน้อยลง เพราะต้องนำกำลังในส่วนนี้ไปช่วยในการดูแลความสงบเรียบร้อยของสถานการณ์การชุมนุม ส่วนกรณีการจับกุมยาเสพติดนั้นก็ยังคงมีการตรวจค้น จับกุมอยู่ทุกวัน ซึ่งตอนนี้กำลังพลของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีเพียง 2 หมื่นนาย และต้องดูแลประชาชนซึ่งมีจำนวนที่มากว่าจึงเกรงว่าอาจจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง