xs
xsm
sm
md
lg

สตช.สรุปสถานการณ์การชุมนุมรายวัน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


สตช.แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมรายวัน ยันเหตุการณ์โดยทั่วไปปกติ ส่วนผลการตั้งจุดความมั่นคงมีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 10 ราย สั่งตรวจตราคุมเข้มสถานบริการ สถานบันเทิงและสิ่งผิดกฎหมายในช่วงปิดภาคเรียน

วันนี้ (13 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกตร. พร้อม พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษก ตร. แถลงรายงานสถานการณ์การชุมนุมและการก่อเหตุอาชญากรรม ว่าสถานการณ์การชุมนุมโดยทั่วไปยังปกติเรียบร้อยไม่มีเหตุแทรกซ้อน ส่วนกิจกรรมบริเวณสวนลุมพินีจะเป็นการเสวนา โดยวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.บริเวณสวนลุมพินี และเครือข่ายชาวนามีการเคลื่อนขบวนไปยังในส่วนราชการกระทรวงพาณิชย์ กรมชลประทาน และตึกชินวัตร 3 ส่วนเวทีคู่ขนานต่างจังหวัดมี 11 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ 3 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด และภาคใต้ 6 จังหวัด ขณะที่ผลการตั้งจุดตรวจความมั่นคงมีการจับกุมผู้ต้องหา 10 ราย ของกลางประกอบด้วย อาวุธปืน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 17 นัด อาวุธมีด 7 เล่ม เสื้อเกราะ 1 ตัว วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง และกัญชา ซึ่งผลการตั้งด่านความมั่นคงมีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.ต.อนุชากล่าวว่า ศาลจังหวัดนครราชสีมาได้อนุมัติหมายจับบุคคลตามภาพสเก็ต ซึ่งเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุยิงอาวุธสงครามใส่บ้านพักของคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ ตามหมายจับที่ จ.15/2557 ลงวันที่ 12 มี.ค. 57 ในข้อหา ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยมีอาวุธในเวลากลางคืน เช่น อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ไว้ในครอบครอง พกพาอาวธปืนไปในเมือง หมูบ้าน ทางสาธารณะสถานโดยไม่มีใบอนุญาต ส่วนผู้ต้องหารายอื่นที่ร่วมก่อเหตุ ทางพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับต่อไป

ทั้งนี้ การเกิดเหตุอาชญากรรมอาจจะเชื่อมโยงกับการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม และการเกิดเหตุอาชญากรรมทั่วประเทศ โดยผลการรับแจ้งและผลการจับกุมที่รายงานต่อที่ประชุม ตร. ในวันนี้การจับกุมยังไม่ผ่านเกณฑ์ที่ ตร.กำหนด ประกอบกับมีข้อมูลพบว่าขณะนี้มีสถานบริการ สถานบันเทิงเปิดเกินเวลารวมทั้งสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับข้อร้องเรียนของประชาชน โดยทาง ผบ.ตร.จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเข้มงวดกวดขันตรวจตราสถานบริการ สถานบันเทิงและสิ่งผิดกฏหมายต่างๆ ซึ่งให้เน้นย้ำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในเส้นทางการเข้าออกสถานบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้เป็นช่วงเวลาของการปิดภาคเรียน เยาวชนจะใช้เวลาว่างไม่เหมาะสม จึงให้กวดขันอย่างเคร่งครัด

ส่วนกรณีพาสปอร์ตที่หายไป ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ยืนยันว่าพาสปอร์ตที่หายไปไม่ได้ถูกนำออกไปจากประเทศไทย โดยผ่านระบบของด่านตรวจคนเข้าเมืองอย่างแน่นอน อีกทั้งทาง สตม.ได้รายงานถึงมาตราการการใช้หนังสือเดินทางปลอมและบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าออกในประเทศไทย ประกอบด้วย 1. การอบรมเจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจจากวิทยากรต่างประเทศ เกี่ยวกับการดูหนังสือเดินทางปลอม ลักษณะของบุคคล และการเทียบเคียงลักษณะ 2. ใช้เครื่องมือในการตรวจสอบเบื้องต้นและเครื่อง VSC6000 ซึ่งเป็นการตรวจรายละเอียด 3. มีการประสานขอตัวอย่างหนังสือเดินทางของแต่ละประเทศเพื่อนำมาให้ข้าราชการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองศึกษาเพื่อดูจุดสังเกตต่างๆ 4. ประสานงานข้อมูลระหว่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกรณีหนังสือเดินทางหายและถูกอายัด 5. มีการบันทึกข้อมูลคนต่างด้าวเข้าประเทศ โดยระบบคอมพิวเตอร์ของ สตม. คือ ระบบ PIBIC โดยทั้งหมดนี้เป็นมาตรการควบคุมหนังสือเดินทางปลอมและบุคคลในการเข้าออกในราชอาณาจักร

ด้าน พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากรกล่าวว่า ผบ.ตร.ได้มีการกำชับการป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรมจากเด็กและเยาวชน และปรับยุทธวิธีต่างๆ โดยเน้นการตั้งด่านตรวจจุดสกัดป้องกันแก๊งจักรยานยนต์ซิ่ง พร้อมทั้งคุมเข้มสถานบันเทิงที่เปิดบริการเกินเวลา รวมทั้งประสานร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร ร้านค้าทอง ในเรื่องการวางมาตรการการรักษาความปลอดภัย โดย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้แจ้งว่าผู้บริหารของธนาคารกสิกรไทยตอบรับข้อห่วงใยของ ตร.ที่ให้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำธนาคาร ซึ่งจะจัด รปภ.ประจำธนาคารในพื้นที่จุดเสี่ยง โดยจะเริ่มในวันที่ 1 เม.ย. 57 เป็นต้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น