สามีนักธุรกิจนัดเคลียร์ใจภรรยาสาวใหญ่ ภายในรั้วมหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังฝ่ายหญิงพยายามตีตัวออกห่าง แต่การเจราจาไม่เป็นผล ชักปืนยิงดับภายในรถ ก่อนหลบหนี และตัดสินใจเข้ามอบตัวในภายหลัง
วันนี้ (10 มี.ค.) พ.ต.ต.ภาสกร มณีรัตน์ พงส.สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวถูกยิงเสียชีวิต ภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้านหน้าข้างอาคารสำนักกีฬา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.โสภณ ยานธรรม รอง ผกก.สส.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.วิวัฒน์ อัศววิบูลย์ รอง ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.หัสดินทร์ นพวงศ์ ณ อยุธยา สว.สส.สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
โดยที่เกิดเหตุเป็นบริเวณด้านข้างอาคารสำนักกีฬา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เจ้าหน้าที่พบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นพรีอุส ทะเบียนป้ายแดง พ 0373 กรุงเทพฯ จอดอยู่ริมฟุตปาธหน้าซุ้มเทคโนโลยีอาหาร ในตัวรถพบศพหญิงสาวเสียชีวิตอยู่บริเวณเบาะคนขับตัวเอนนอนไปทางฝั่งคนนั่ง ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ เศษสมองกระจายเต็มกระจกข้าง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวจุดดำ กระโปรงสั้นสีเทา ทราบชื่อภายหลังคือ นางสิริกร ไชยราชา อายุ 38 ปี มีอาชีพเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท บี.อี คอมมิวนิเคชั่น ขายอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายชื่อ นายชาญศักดิ์ เฮียงก่อ อายุ 43 ปี ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีบรอนซ์เงิน เข้ามาจอดเทียบรอผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังจากนั้น เมื่อนางสิริกร ขับรถมาถึงยังที่เกิดเหตุ คนร้ายได้ลงจากรถก่อนเดินมายังรถผู้เสียชีวิต ก่อนจะทะเลาะมีปากเสียงกันเล็กน้อย หลังจากนั้นคนร้ายจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาเป็นปืนลูกซองสั้น ไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 ยิงเข้าใส่นางสิริกร จำนวน 1 นัด จนนางสิริยากรล้มตัวลงนอนนิ่งอยู่บนเบาะรถยนต์ ก่อนที่คนร้ายจะขับรถออกไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นนายชาญศักดิ์ได้ประสานขอเข้ามอบตัวกับทาง สน.ร่มเกล้า ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ส่งตัวมายัง สน.หัวหมาก
ด้าน นายชาญศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นเจ้าของกิจการขายเกี่ยวกับรองเท้า อยู่กินกับผู้ตายเป็นสามีภรรยากันมา 16 ปี มีลูก 2 คน เป็นลูกชายอายุ 12 ปีและลูกสาวอายุ 8 ปี ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว ทางผู้ตายได้เริ่มตีตัวออกห่าง
จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองต้องพาลูกชายมามอบตัวที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทางนางสิริกร ได้ส่งข้อความในไลน์มาบอกว่าอยากเจอลูก จึงนัดเจอกันที่หน้าโรงเรียน เมื่อผู้ตายมาถึงตนเองก็เข้าไปหาและพูดจาหยอกล้อภรรยา โดยให้ลูกชายรออยู่ในรถ แต่กลับถูกทางภรรยาผลักและต่อว่ากลับมา ตนจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงเข้าใส่ภรรยา ก่อนจะกลับบ้านเพื่อนำลูกชายกลับไปส่งที่บ้าน เพราะไม่อยากให้ลูกชายทราบเรื่อง และเดินทางเข้ามอบตัวดังกล่าว สำหรับอาวุธปืนนั้น ตนเองเก็บได้เมื่อหลายปีก่อน และใส่ไว้ในรถตลอดเวลา
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป