โชเฟอร์ควบรถเมล์ ปอ.สาย 38 พุ่งอัดป้อมตำรวจแยกสามเหลี่ยมดินแดงพังยับ เจ็บ 4 ราย ระบุเบรกแตกจึงตัดสินใจหักหลบชนป้อม
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.เมื่อเวลา 08.30 น. ร.ต.ท.สมศักดิ์ สีหาใต้ พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้รับแจ้งเหตุรถโดยสารประจำทางปรับอากาศสาย 38 พุ่งเข้าชนป้อมตำรวจจราจร บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ถนนราชปรารภ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ ขสมก.และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบรถโดยสารปรับอากาศสาย 38 หมายเลขทะเบียน 15-4017 กทม.สภาพรถพุ่งชนป้อมตำรวจ ด้านหน้าพังยับเยิน ติดคาป้อมตำรวจ ส่วนป้อมตำรวจได้รับความเสียหายทั้งหลัง เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย คือ 1.นายสิงค์ ค้าจงเจริญ อายุ 66 ปี พนักงานขับรถโดยสารปรับอากาศสาย 38 ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และมีเลือดออก 2.นางบัวลอย สีหาวงศ์ พนักงานเก็บค่าโดยสารประจำรถคันดังกล่าว ส่วนผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นพ.สุธีร์ ปรีชาพันธ์ ได้รับบาดเจ็บที่หลัง และ น.ส.ชนิดา จิรวศินโรจน์ ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา เจ้าหน้าที่จึงนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.ราชวิถี ส่วนเจ้าหน้าที่ในป้อมดังกล่าว ระหว่างเกิดเหตุได้วิ่งหลบหนีออกทัน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
ร.ต.ต.วสันต์ งามสมพงษ์ รองนายก จร.สน.ดินแดง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้นั่งควบคุมการจราจรอยู่ในป้อมดังกล่าว ก่อนจะได้ยินเสียงมาจากทางด้านหลัง และพบว่ารถเมล์ ปอ.38 พุ่งเข้าชนป้อมตำรวจ ด้วยความตกใจจึงวิ่งออกมานอกป้อม โดยรถเมล์คันดังกล่าวชนต้นไม้ ลากเสากล้องซีซีทีวี และพุ่งเข้าชนป้อมตำรวจ หลังจากนี้คาดว่าจะต้องรื้อป้อมตำรวจเพื่อสร้างใหม่ เนื่องจากได้รับความเสียหายมาก ทั้งนี้จะต้องรอให้พนักงานสอบสวนคนขับรถเมล์ ปอ.38 อีกครั้ง และรอวิศวกรเข้ามาตรวจสอบรถคันดังกล่าวว่าเกิดเหตุเบรกแตกตามที่คนขับให้การไว้หรือไม่
จากการสอบสวนพนักงานเก็บค่าโดยสารรถ ปอ.38 ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุรถชนป้อมตำรวจนั้น ตนนั่งอยู่ด้านข้างของคนขับ มีผู้โดยสารประมาณ 4-5 คน เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุ คนขับตะโกนบอกว่าเบรกแตก ในขณะนั้นเห็นว่ามีรถจอดติดไฟแดงจำนวนมาก คนขับจึงตัดสินใจหักรถพุ่งเข้าเกาะกลางถนน ซึ่งคาดว่าจะหยุดรถได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา นายสิงค์ ค้าจงเจริญ คนขับรถเมล์ ปอ.38 ว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และหลังจากนี้จะเรียกตัวมาสอบปากคำ พร้อมทั้งตรวจหาสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย หากพบจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
