บช.ปส.แถลงจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 คดี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 7 แสนเม็ด โดย 1 ในผู้ต้องหาเป็นพี่ชาย “ภาพ 70 ไร่” นักโทษคดียาเสพติดรายใหญ่ย่านคลองเตย สารภาพนำเงินไปาเปิดบ่อนการพนันย่านดอนเมือง ตำรวจเร่งขยายผล
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (3 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส.ร่วมแถลงการจับกุมคดียาเสพติดจำนวน 2 คดี
คดีเเรก จับกุมนาย ปัญญา ทรงประสิทธิผล อายุ 39 ปี นายโก๊ะ หาญสถาวงศ์ อายุ 30 ปี และ นายสวัสดี อัศววิทยภิญโญ อายุ 28 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 610,000 เม็ด รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฆฆ 6054 กทม.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเขียว ทะเบียน บบ 5330 แพร่ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆก 7044 กทม.โทรศัพท์มือถือ 7เครื่อง โดยจับได้ที่ กม.237 ทางหลวง พิษณุโลก- อุตรดิตถ์ หมู่ 4 ต.บ้านป่า อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เมื่อเวลา09.00 น.ของวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ศุภกิจ กล่าวว่า นายปัญญา คือบุคคลที่ทางเจ้าหน้าที่พยายามติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมากว่า 2 ปีเเล้ว โดยในวันดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายปัญญากับพวก จะมีการลักลอบขนยาบ้าจากภาคเหนือ เพื่อไปส่งมอบให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์ ทะเบียน ฆฆ 6055 กทม.เป็นพาหนะในการลำเลียง โดยใช้เส้นทางผ่าน จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ยังบริเวณดังกล่าว ต่อมาเวลา 09.00 น.พบรถยนต์คันดังกล่าว ขับผ่านมาบริเวณจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบว่า นายโก๊ะ เป็นคนขับเเละเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว จากการตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อน ในช่องลับใต้กระบะรถที่ถูกดัดแปลงพิเศษ จำนวน 305 มัด รวมเป็น 610,000 เม็ด ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผล กระทั่งสามารถจับกุมนายปัญญา และนายสวัสดี ซึ่งทำหน้าที่ขับรถยนต์คุ้มกันการลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างในการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่ายาล็อตดังกล่าว เป็นชนิดเดียวกับเครือข่ายของ พ.ท.ยี่เซ เเต่น่าสังเกตที่บรรจุภัณฑ์กลับเป็นสัญลักษณ์เลข 686 ซึ่งต่างจากสัญลักษณ์ปกติของ พ.ท.ยี่เซ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.จะประสานไปยัง ป.ป.ส.ที่ประเทศพม่า เพื่อขยายผลหาโรงงานที่ผลิตยาเสพติดล็อตนี้ต่อไป ทั้งนี้จะดำเนินคดีจับกุมเจ้าของอู่รถที่เป็นผู้ดัดแปลงติดตั้งไฮโดรลิกกระบะหลังให้กับผู้ต้องหา โดยจะทำการประสานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดี เเละยึดทรัพย์ต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เเจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีต่อไป
คดีที่ 2 จับกุมนายลัทธพล นันทยศสกุล หรือ สมพร สีแดง อายุ 47 ปี และ นางณัชปณิตา หรือโอ่ง จิตต์สุข อายุ 55 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 60,000 เม็ด รถเก๋ง ยี่ห้อเลกซัส สีขาว ทะเบียน ฎฐ 8935 กทม.และ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่สถานีบริการน้ำมัน เอสโซ่ เลขที่ 30 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ต่อเนื่อง บริเวณซอยสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่อง 1 มีนาคม
พล.ต.ต.ศุภกิจ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถจับกุมนายชาย อินชายแก้ว พร้อมกับพวก ได้เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมยาบ้าจำนวน 860,000 เม็ด จึงขยายผลกระทั่งสามารถจับกุมนายลัทธพล และนางณัชปณตา ได้ จากการสอบสวนทราบว่านายลัทธพล เป็นพี่ชายของนายสุภาพ สีแดง ฉายา ภาพ 70 ไร่ นักโทษคดียาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่คลองเตย ทั้งนี้ นายลัทธพล รับสารภาพว่านำเงินจากการค้ายาเสพติดเหล่านี้ไปเปิดบ่อนการพนันย่านดอนเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลติดตามจับกุมต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เเจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีต่อไป