คนร้ายอุกอาจขี่ จยย.ปาระเบิด 2 ลูกใส่บริเวณลานจอดรถศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก แต่โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต คาดเป็นการข่มขู่
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันนี้ (3 มี.ค.) พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง สารวัตรเวร สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน และ พ.ต.ท.ยุทธพงษ์ หอมจรรยา สวป.สน.พหลโยธิน เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายปาระเบิด 2 ลูก โดยระเบิดลูกแรกตกอยู่ริมถนน สภาพมีชิ้นส่วนระเบิดและสปริงตกอยู่ คาดเป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่ตกอยู่ด้านในศาลอาญา ส่วนลูกที่ 2 เป็นระเบิด ชนิดเอ็ม 61 ตกอยู่บริเวณลานจอดรถ ภายในรั้วศาลอาญา ฝั่งติดกับปั๊ม ปตท. ดยสภาพถอดสลักออกแล้ว แต่ยังไม่ระเบิด โดยรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำยางรถยนต์มาวางครอบระเบิดที่ตกอยู่ในรั้วศาลอาญา พร้อมนำเชือกมากั้นเป็นแนวและไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน และรอเจ้าหน้าที่อีโอดีมาตรวจสอบอย่างละเอียดและทำการเก็บกู้อีกครั้ง
พ.ต.ท.สุชัย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ รปภ.ของศาลอาญา และทหารที่อยู่หน้าศาลอาญาได้ยินเสียงระเบิดดัง 1 ครั้ง ส่วนคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการก่อเหตุ คนขับขี่สวมหมวกกันน็อก ส่วนคนซ้อนท้ายซึ่งปาระเบิดรูปร่างสันทัด ใส่เสื้อสีดำ คลุมหมวกไหมพรม
ขณะที่ ส.ท.อำนาจ โพเทพา และ ส.อ.ประสิทธิ์ กลิ่นกุหลาบ เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดปตอ. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดตรวจทางเข้าศาลอาญา ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นว่า ช่วงก่อนเกิดตุประมาณเวลา 10.00 น.เศษ เห็นชายคนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย. ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีชมพู-ขาว ไม่ทราบทะเบียน สวมหมวกกันน็อกครึ่งใบ ส่วนคนซ้อน สวมหมวกไอัโม่งคลุมศีรษะสีดำ สวมเสื้อแขนยาวสีดำ ขี่จยย.มาจากแยกรัชดาฯตัดลาดพร้าว ทางช่องทางซ้ายแบบชะลอตัว พอมาถึงจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ทหาร คนร้ายได้ชะลอรถโดยใช้ความเร็วประมาณ 20 - 30 ก.ม. และหันมามองเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งท่าทางมีพิรุธ จึงได้เฝ้าระวังเหตุ จากนั้นคนร้ายได้ขี่จยย.เลยไปจนถึงบริเวณประตูทาง ก่อนจะปาระเบิดสังหารดังกล่าวจำนวน 2 ลูก แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าตรอกด้านข้างปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่อยู่ติดกับศาลอาญา
ต่อมา พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดขว้างสังหาร ชนิดเอ็ม 61 รัศมีฉกรรจ์หลังตกกระทบ 15-20 เมตร ซึ่งระเบิดลูกแรกถือว่าระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ ส่วนลูกที่ 2 ไม่ระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้โดยนำเข็มสลักเซฟตี้แทงเข้าไปที่ลูกระเบิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระเบิดขึ้น ก่อนจะทำการเก็บกู้ไปเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และนายธงชัย เสนามนตรี อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้มาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ใกล้ชิด
นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ตนเห็นว่าที่คนร้ายก่อเหตุครั้งนี้ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องใช้ความรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาตรวจสอบวัตถุระเบิดดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ทางสำนักงานศาลยุติธรรมจะมีการทบทวนวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นที่จอดรถของผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ธุรการ อาจจะต้องมีการปรับระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น และได้รายงานเหตุดังกล่าวให้นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกาทราบแล้ว
นายธงชัย เสนามนตรี อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า ความจริงแล้ว ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายแล้ว ก็ไม่น่าที่จะเกิดเหตุเช่นนี้ ซึ่งการกระทำน่าจะเกิดจากผู้ไม่ประสงค์ดี ขอยืนยันว่า คดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลอาญาก็ดำเนินตามกระบวนการปกติ รวมทั้งก็ไม่น่าจะเกิดจากการพิจารณาคดีของฝ่ายต่าง ๆ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารที่มาดูแลความเรียบร้อยก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีมาโดยตลอด
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.กล่าวภายหลังเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า ทราบว่าหลังเกิดเหตุคนร้ายได้ขี่จยย.หลบหนีไปในซอยข้างปั้มน้ำมันปตท. ซึ่งเป็นซอยที่สามารถทะลุออกไปได้หลายเส้นทาง ทั้งลาดพร้าวซอย 1 และซอยใกล้เคียงอื่นๆ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผนล่วงหน้า โดยมาสำรวจดูเส้นทางหลายครั้งก่อนลงมือเกิดเหตุ ซึ่งถือว่าคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจเพราะลงมือในช่วงกลางวันโดยมีประชาชนและรถยนต์สัญจรผ่านไปมาค่อนข้างมาก ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้เฝ้าระวังเหตุอย่างเข้มงวดเนื่องจากมีคนร้ายใช้ระเบิดและอาวุธปืนโจมตีใส่สถานที่ต่างๆหลายครั้ง ซึ่งมาตรการป้องกันเหตุบริเวณศาล เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ทหารจากปตอ. จำนวน 1 กองร้อยประจำการอยู่แล้ว แต่ว่าได้แบ่งเป็นชุดย่อยๆกระจายอยู่บริเวณโดยรอบจึงทำให้ไม่เพียงพอ ซึ่งตนจะประสานเจ้าหน้าที่ทหารขอกำลังสนับสนุนเพิ่มเติม ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับผิดชอบบริเวณโดยรอบทั้งถนนรัชดาและด้านหลังศาล รวมทั้งตั้งจุดตรวจค้นตอนกลางคืน
พล.ต.อ.เอก กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่ผ่านมา ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญ โดยมีการตั้งหน่วยสืบสวนสอบสวนโดยเฉพาะ โดยมีพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วยผบ.ตร. เป็นผู้บังคับบัญชา เพื่อสืบสวนเร่งติดตามจับกุมคนร้าย โดยเชื่อว่าคนร้ายที่เคยก่อเหตุยิงระเบิดเอ็ม79 ใส่ศาลอาญาและศาลแพ่ง กับที่ก่อเหตุขว้างระเบิดสังหารครั้งนี้เป็นกลุ่มเดียวกัน ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากการสร้างสถานการณ์ทางการเมือง ส่วนความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายที่ยิงระเบิดเอ็ม79 นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและพยานวัตถุ เพื่อนำมาเป็นแนวทาง ศึกษาและวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของคนร้าย และนำภาพจากกล้องวงจรปิด ที่จับภาพคนร้ายไว้ได้ไปตรวจสอบ เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป