ตร.กองปราบฯ บุกจับผู้ต้องหาสาวพร้อมพวก นำเพชรมาประเมินราคาที่โรงรับจำนำย่านคลองเตยสูงกว่าราคาเป็นจริง ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายสูงถึง 37 ล้าน ขณะที่ทำสอบสวนอยู่นั้น ผอ.ศรส. “เหลิม” โทร.ขอเคลียร์คดี ตร.เมินส่งตัวขอประกันในชั้นศาล
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.บุญสนอง เบ้าตุ่น สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังจับกุม น.ส.สายสุนี ขันทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/77 ชุมชนท่าเรือคลองเตย ถ.สุนทรโกษา ซอย 8 แขวงและเขตคลองเตย กทม. และนายชัยวัฒน์ ปราณอุดมรัตน์ อายุ 59 ปี ผู้จัดการโรงรับจำนำ บริษัท บุญนำพานิช จำกัด เลขที่ 9 และ 11 ถนนอาจณรงค์ แขวงและเขตคลองเตย กทม. ตามหมายจับศาลอาญาข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นโดย จับกุม น.ส.สายสุนี ได้ที่บ้านพัก ส่วนนายชัยวัฒน์จับกุมตัวได้ที่หน้าอาคารเตชะไพบูลย์ เลขที่ 16 ถนนพลับพลาไชย แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2554 - วันที่ 29 พฤษภาคม 2556 น.ส.สายสุนี ได้ร่วมกับพวกนำทรัพย์สินประเภทเพชร พลอยมาให้นายชัยวัฒน์ประเมินราคาสูงกว่าความเป็นจริง และได้เงินจากการจำนำทรัพย์สิน ทำให้บริษัทฯ ได้ความเสียหายเป็นเงิน 37 ล้านบาท
สอบสวนนายชัยวัฒน์ให้การปฏิเสธว่าเป็นคนทำหน้าที่ประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งทำงานนี้มาเกือบ 40 ปีแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของ น.ส.สายสุนี
สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนได้สอบสวนขยายผลโดยขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไว้อีก 3 ราย ซึ่งจะเร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ น.ส.สายสุนีถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวและสอบสวนที่ บก.ป.นั้น ได้มีนักการเมืองชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี (เฉลิม อยู่บำรุง) โทรศัพท์เข้ามาขอให้เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและให้ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่พนักงานสอบสวนใช้ดุลพินิจแล้วขอให้ผู้ต้องหาไปยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อศาล เนื่องจากเป็นคดีที่มูลค่าความเสียหายสูงมาก
