ศาลอาญานัดฟังคำสั่ง ดีเอสไอ ขอหมายจับหลวงปู่พุทธะอิสระ-แกนนำ กปปส.13 คน ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 24 ก.พ.นี้
ที่ห้องพิจารณา 814 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (19 ก.พ.) ศาลไต่สวนคำร้องขออนุมัติหมายจับ 13 แกนนำ กปปส.ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ยื่นขอให้ศาลพิจารณาอนุมัติหมายจับ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำ สหภาพรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.), น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร, นายสกลธี ภัททิยกุล, นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์, นายเสรี วงษ์มณฑา,นายถนอม อ่อนเกตุพล, หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม, นายสาวิทย์ แก้วหวาน แกนนำ สรส., นายคมสันต์ ทองศิริ, นายสุชาติ ศรีสังข์, นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำเครือข่ายกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) และนายนพพร เมืองแทน ทั้งหมดเป็นแกนนำและแนวร่วมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) รวม 13 คน ในข้อหากระทำผิด พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 11(1) และมาตรา 12
โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ นำพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่นครบาลต่างๆ รวม 3 ปาก ไต่สวนต่อเนื่องมาจากที่ดีเอสไอ ได้นำพยานบุคคลเข้าไต่สวนมา 2 วันแล้ว ขณะที่การไต่สวนดังกล่าว ศาลไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าฟังการไต่สวนแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 11.00 น.เมื่อไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว ศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะอนุมัติหมายจับหรือไม่ ในวันที่ 24 ก.พ.นี้ เวลา 11.00 น.
ขณะที่ พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า พยานที่นำสืบมาทั้งหมด มีประมาณ 20 ปาก ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล พื้นที่ต่างๆ เบิกความเกี่ยวกับเหตุการณที่เกิดขึ้น และอีกส่วนเป็น เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ โดยพยานหลักฐานที่นำสืบนอกจากพยานบุคคล ยังมีพยานวัตถุเป็นวีซีดี บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ด้วย
