สน.สุทธิสาร แถลงข่าวจับกุม 2 โจ๋ตระเวนขี่ จยย.ชิงทรัพย์ผู้เสียหายหลายราย สารภาพนำเงินที่ได้มาแบ่งกันคนละครึ่ง ถ้าเป็นยาเสพติดจะนำมาเสพร่วมกัน โดยเลือกเหยื่อที่แต่งตัวดีภูมิฐาน
เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (13 ก.พ.) ที่ สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.อัครวัฒน์ พุ่มไพศาลชัย รอง ผกก.สส.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล รอง ผกก.ป.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.กานดิศ ระวิโรจน์ พ.ตท.ณัฐพัฒนส์ ธรรมชุดินันท์ สว.สส.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.พงศ์จารุ พฤติธรรมกูล สวป.สน.สุทธิสาร ได้ร่วมกันแถลงการจับกุมนายเต๋า (นามสมมติและสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี (สวมเสื้อสีชมพู) นายอัมรินทร์ หรือ ปืน จักรผัน อายุ 20 ปี (สวมเสื้อสีดำ) พร้อมของกลางรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีขาวม่วง ทะเบียน 1กข 8457 ตรัง รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน ขลจ 699 อุกบลราชธานี รถ จยย.ยี่ห้อยามม่าฮ่า ฟีโน่ สีขาว ทะเบียน อจข 181 กทม ขวานด้ามเล็กยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวน 1 ด้าม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง กระเป๋าสุภาพสตรี จำนวน 2 ใบ อุปกรณ์ในการเสพยา และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ โดยจับกุมตัวได้ที่อาคารศรวิทย์ ซอยลาดพร้าว 62 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.
พ.ต.ท.ปรีชา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามีการมั่วสุมยาเสพติดกัน ที่อาคารศรวิทย์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบวัยรุ่นหญิง 2 คน ชาย 5 คน และรถ จยย.จำนวน 3 คัน จากการตรวจสอบพบว่ารถ จยย.ดังกล่างตรงกับรถ จยย.ที่เคยใช้ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ สน.ดินแดง สน.ห้วยขวาง และ สน.สุทธิสาร จำนวนหลายครั้ง จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายจิรภัทร และนายอัมรินทร์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้เคยก่อเหตุตระเวนชิงทรัพย์ ในหลายพื้นที่ โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2557เวลาประมาณ 23.50 น.ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์นายเอกชัย ธนันไชย อายุ 23 ปี ขณะกำลังเดินอยู่บนสะพานลอยข้ามถนนวิภาวิดีรังสิต หน้าเอ็นบีที นายอัมรินทร์ ได้ใช้ขวานจี้ชิงทรัพย์กระเป๋าสะพาน 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 5 จำนวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 19,200 บาท ก่อนซ้อน จยย.ยี่ห้อฟีโน่ สีขาว ทะเบียน อจข 181 กทม.ที่นายเต๋า ติดเครื่องรอไว้ก่อนหลบหนีไป ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2557 เวลาประมาณ 21.10 น.ขณะที่ นางสาวศิริพร เต็งสุทธิวัฒน์ อายุ 23 ปี ยืนอยู่บริเวณใกล้ปากซอยรัชดา 15 นายอัมรินทร์ ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ และใช้มือล้วงชายเสื้อของตน โดยอ้างว่าตนมีปืน พร้อมขู่เอาทรัพย์สินของนางสาวศิริพร ได้ทรัพย์สินเป็นมือถือยี่ห้อซัมซุงโน้ต 2 จำนวน 1 เครื่อง นาฬิกายี่ห้อคาสิโอ 1 เรื่อน และเงินสดจำนวน 600 บาท ก่อนซ้อน จยย.ยี่ห้อฟีโน่ สีขาว ทะเบียน อจข 181 กทม.ที่นายเต๋า ติดเครื่องรอไว้ก่อนหลบหนีไป
พ.ต.ท.ปรีชา กล่าวต่อว่า โดยครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2557 เวลาประมาณ 04.40 น.ขณะที่นางสาวโยสิยาห์ อายุ 32 ปี ได้ยืนรอรถประจำทางอยู่ที่บริเวณหน้าอาคารหัตถเวช ถนนวิภาวดีรังสิต นายเต๋า ได้ขี่ จยย.ยี่ห้อฟีโน่ สีขาว ทะเบียน อจข 181 กทม. โดยมีนายอัมรินทร์เป็นผู้ซ้อนทาย เมื่อพบเหยื่อ นายอัมรินทร์ ได้ใช้อาวุธมีดขู่บังคับเหยื่อ โดยได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง เงินสดจำนวน 400 บาท ก่อนซ้อน จยย.หลบหนีไป และครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2557 เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ขณะที่นางสาวเฌอมาลย์ ถังทอง อายุ 18 ปี และนางสาวณิชากร ตามประดิษฐ์ อายุ 18 ปี ได้ขับขี่รถ จยย.มาถึงกลางซอยลาดพร้าว 4 นายจิรภัทร ได้ขับขี่จยย.ยี่ห้อฟีโน่ สีขาว ทะเบียน อจข 181 กทม.ส่วนนายอัมรินทร์ ได้ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีขาวม่วง ทะเบียน 1กข 8457 ตรัง โดยขับตามเหยื่อมาจนถึงที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ขี่ จยย.ประกบเหยื่อให้จอดรถ ก่อนขู่บังคับได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 4 จำนวน 1 เครื่อง นาฬิกาข้อมือยี่ห้อพูม่า 1 เรือน เงินสดจำนวน 6,000 บาท ก่อนพากันขี่ จยย.หลบหนี
พ.ต.ท.ปรีชา กล่าวอีกว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่าได้เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว โดยจะนำทรัพย์สินที่ได้มาไปขายให้กับนายต้น ซึ่งนายต้นจะให้มาเป็นเงินหรือยาเสพติด หากเป็นยาเสพติดตนจะนำยาเสพติดดังกล่าวมาเสพร่วมกัน หากได้เป็นเงินจะนำมาแบ่งกันคนละครึ่ง นอกจากนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองจะเลือกกระทำในท้องที่ พหลโยธิน วิภาวิดีรังสิต ห้วยขวาง และรัชดาภิเษก เนื่องจากเป็นพื้นที่ละแวกบ้านของผู้ต้องหาซึ่งอาศัยอยู่ในย่านดินแดง โดยผู้ต้องหาทั้งสองจะมีความชำนาญในเส้นทางดังกล่าว และจะเลือกเหยื่อโดยดูจากลักษณะการแต่งตัวดูมีฐานะ
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบว่า นายเต๋า ยังเป็นผู้ต้องหาในคดีตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางที่ 415/2556 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2556 ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่น เพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดอย่างอื่นฯ และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านฯ อีกด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะส่งเรืองให้ศาลเยาวชนดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายเต๋าและนายอัมรินทร์ ในข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ” ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพื่อขยายผลและดำเนินคดีต่อไป ด้านผู้ต้องหาอีก 5 คนที่จับกุมได้ในตอนแรก ได้แจ้งข้อหา “เสพยาเสพติด” พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
