ศาลออกหมายจับ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” นำมวลชนขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้า ที่่สำนักงานเขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้ (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งไต่สวนหมายจับ กรณีที่ พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ผู้ร้องยื่นขออนุมัติหมายจับหลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ข้อหาขัดขวางการเลือกตั้ง กรณีนำมวลชนไปชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้งที่บริเวณหน้าสำนักงานเขตหลักสี่ ในการเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2557 และการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 โดยผู้ร้องนำเจ้าพนักงานตำรวจมาเบิกความไต่สวนหมายจับ รวม 3 ปาก
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ร้องยืนยันข้อเท็จจริงตามคำร้องและยังนำประจักษ์พยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาเบิกความยืนยันถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวรวมทั้งมีพยานบุคคลในสำนวนของผู้ร้องที่ยืนยันว่าไม่สามารถใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันที่กำหนดได้ และเมื่อพิจารณาพยานหลักฐานของผู้ร้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคลพยานเอกสาร วัตถุพยาน เช่น แผ่นวีซีดี ที่บันทึกภาพเคลื่อนไหว เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นประกอบกันแล้ว มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่าบุคคลตามที่ผู้ร้องขอให้ออกหมายจับ นาจะได้กระทำผิดอาญาร้ายแรง ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกเกิน 3 ปี จึงอนุญาตให้ออกหมายจับหลวงปู่พุทธะอิสระ หรือพระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ โดยให้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการติดตามจับกุมต่อศาลทุก 3 เดือนจนกว่าจะจับกุมได้ และเมื่อดำเนินการตามหมายจับได้แล้ว ให้ส่งบันทึกการจับกุมต่อศาลภายใน 7 วัน
อนึ่งการดำเนินการตามหมายจับของศาลเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องต้องกระทำเพียงเพื่อจับบุคคลตามหมายจับโดยเคร่งครัด การนำหมายจับไปเปิดเผยต่อผู้ที่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมิใช่เพื่อจับกุมบุคคลตามหมายจับโดยตรง ย่อมปราศจากอำนาจที่จะกระทำได้ตามกฎหมาย ศาลอาญาจึงออกข้อกำหนดห้ามมิให้เจ้าพนักงานกระทำการใดๆ อันเป็นการเผยแพร่หมายจับต่อบุคคลผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจับกุมบุคคลตามหมายจับ มิฉะนั้นถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล
ส่วนกรณีเจ้าพนักงานให้ออกหมายจับขัดขวางการเลือกตั้ง ในวันที่ 2 ก.พ.ด้วยนั้น เห็นว่าศาลได้ออกหมายจับบุคคลตามคำร้องดังกล่าวไว้แล้ว ซึ่งผู้ร้องสามารถใช้หมายจับดังกล่าวไปดำเนินการต่อไปได้ จึงไม่จำเป็นต้องออกหมายจับคำร้องนี้ ซึ่งมีข้อหาทำนองเดียวและต่อเนื่องกันอีก ให้ยกคำร้อง
ด้านพ.ต.ท.อุดม รุจิระชาคร พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวถึงการติดตามจับกุมตัวว่า ต้องให้ผู้ใหญ่พิจารณาแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไร เช่น อาจจะมีการเข้าไปในพื้นที่แล้วนิมนต์ท่านมารับทราบข้อกล่าวหา แต่จะส่งหนังสือไปถึงมหาเถรสมาคมหรือไม่ต้องพิจารณาอีกทีเพราะท่านยังครองสมณเพศต้องปฎิบัติต่อท่านอย่างเหมาะสม
นายพายัพ เฮ้าประมงค์ ทนายความกล่าวว่า จะกลับไปรายงานให้หลวงปู่พุทธะอิสระทราบ อย่างไรก็ตามเห็นว่าก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนสน.ทุ่งสองห้องซึ่งมาขอหมายจับ เคยไปพบเจรจากับหลวงปู่พุทธะอิสระได้ ดังนั้นจึงไม่มีพฤติการณ์หลบหนี หรือเหตุที่ตำรวจจะต้องขอหมายจับ และหลังจากนี้จะต้องดูเอกสารการไต่สวนของพนักงานสอบสวนว่าเบิกความตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ ก่อนจะพิจารณายื่นเพิกถอนหมายจับต่อไป ส่วนกรณีที่สำนักพระพุทธศาสนาอ้างว่าควรจะสึกนั้น ก็ให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาระบุมาเลยว่าหลวงปู่พุทธะอิสระกระทำความผิดข้อใดบ้าง ที่จะต้องปาราชิก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ศาลอาญาก็ยังได้อนุมัติหมายจับ นาย นวการ ขอนศรี,นายประเสริฐ ด้วงทิพย์ แนวร่วม กปปส.ในข้อหาขัดขวางการเลือกตั้งที่พนักงานสอบสวน สน.ดินแดงได้ยื่นคำร้องขอเช่นเดียวกับ นายทินกร ปลอดภัย และ นายปรีติ ชวลิตร ตามที่พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ยื่นคำร้องข้อหาเดียวกัน กรณีขัดขวางการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยศาลกำหนดเงื่อนไขเช่นเดียวกันกับหมายจับของหลวงปู่พุทธอิสระ