สตช.สั่งดำเนินการควบคุมเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ชุมนุม โดยให้มีการแจ้งการปิดเส้นทางอย่างชัดเจนเพื่อให้ประชาชนรับทราบ เผยยอดผู้แจ้งความร้องทุกข์ที่ได้รับความเดือดร้อนจาการชุมนุมกว่าหมื่นราย
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษก ตร. กล่าวสรุปสถานการณ์การเลือกตั้งและข้อสั่งการของ ผบ.ตร.ว่า สถานการณ์การชุมนุมยังคงมีเวที 7 เวทีหลักเช่นเดิม ยังคงมีการปิดกั้นที่สะพานพระราม 8 และกระทรวงพลังงาน ส่วนการชุมนุมในเวทีคู่ขนาน เมื่อวานนี้มีการชุมนุมทั้งสิ้น 14 จังหวัด แบ่งเป็นภาคเหนือ 3 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด และภาคใต้ 8 จังหวัด ส่วนกิจกรรมในวันนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.จะเดินรณรงค์ขอบคุณประชาชนที่ร่วมกันคัดค้านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนกิจกรรมเวทีการชุมนุมทั้ง 7 เวที จะมีการยุบเวที ที่ลาดพร้าว และเวทีที่อนุสาวรีย์ฯ ไปรวมกับเวทีที่สวนลุมพินี
พล.ต.ต.อนุชากล่าวว่า ส่วนผลการตั้งจุดตรวจมั่นคงเมื่อวานนี้จนถึงเมื่อคืน สามารถจับกุมอาวุธปืน 3 กระบอก กระสุนปืน 32 นัด ยาบ้า 2 เม็ด กัญชา 1 ห่อ อาวุธมีด 1 เล่ม และผู้ต้องหา 4 ราย เวลาประมาณ 23.00 น.ที่ด่านความมั่นคง จับกุมตัวนายชลิต ม่วงภาษี ขับรถยนต์ผ่านมาพบท่าทางมีพิรุธ จึงทำการตรวจค้นพบอาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 22 นัด กัญชา 1 ห่อ และอาวุธมีด 1 เล่ม ต่อมาเมื่อเวลา 22.00 น. ขณะที่นายประพันธ์ พงษ์วิสิทธิ์ ขับรถยนต์ออกจากบริเวณตลาดสามย่านเพื่อจะเดินทางกลับบ้าน ได้เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานไทย-ญี่ปุ่น บริเวณวัดหัวลำโพง ตรงจามจุรีสแควร์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวไม่มีสิ่งบ่งบอกว่าสะพานถูกปิด ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังมาจากแนวรั้วกั้น ยิงใส่รถนายประพันธ์ โดนบริเวณกระจกหน้าและกระจกข้าง นายประพันธ์จึงขับรถหลบหนีกระสุนและไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเทพธาริน ในเวลาต่อมามีผู้ประสบเหตุการณ์แบบนายประพันธ์และได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ปทุมวัน 2 ราย
อีกกรณีพบผู้ต้องสัยขับรถยนต์ผ่านจุดตรวจความมั่นคง คือ นายชนินทร์ รุ่งเเสง บริเวณหน้าพรรคเพื่อไทย พบท่าทางมีพิรุธ จึงทำการตรวจค้นพบอาวุธปืน .38 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 6 นัด พร้อมแมกกาซีน โดยทั้งสองรายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นการผ่าฝืนพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานณ์การฉุกเฉินทั้ง 2 คดี ในกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้ดำเนินการควบคุมเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ชุมนุม โดยให้มีการแจ้งการปิดเส้นทางอย่างชัดเจนให้ประชาชนรับทราบว่าไม่สามารถผ่านได้หรือไม่สามารถเข้าสู่เส้นทางได้ ซึ่งทาง บช.น.จะดำเนินการประชาสัมพันธ์เส้นทางให้พี่น้องประชาชนรับทราบ
พล.ต.ต.อนุชากล่าวถึงสถานการณ์เลือกตั้งที่ผ่านมาตามที่ได้มีการรายงานไปแล้วเมื่อวานนี้ สรุปได้ว่าหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ 76 จังหวัด รวมทั้ง กทม. มี 93,952 หน่วยเลือกตั้ง สามารถดำเนินการเลือกตั้งได้ ร้อยละ 89.2 และมีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร โดยการฉีกบัตรเลือกตั้ง 8 คดี ได้แก่ กทม.1 คดี, ฉะเชิงเทรา 2 คดี, นครราชสีมา 1 คดี, ศรีษสะเกษ 1 คดี, นครปฐม 2 คดี และสมุทรสงคราม 1 คดี
ผลสรุปของศูนย์บริการประชาชนเกี่ยวกับการที่พี่น้องประชาชนร้องทุกข์ที่ได้รับจากการชุมนุม ตั้งแต่ 13 ม.ค. - 1ก.พ. มีทั้งสิ้น 1,590 ราย และในวันที่ 2 ก.พ. มีทั้งสิ้น 8,855 ราย รวมทั้งสิ้น 10,445 ราย ส่วนประชาชนที่เดือดร้อนจากการขัดขวางไม่ให้ไปใช้สิทธิสามารถร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่งหรือกองบังคับการกองปราบ
ด้าน พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากรกล่าวว่า ขณะนี้มีการชุมนุมของเกษตรกรชาวนาภาคตะวันตก รวมทั้งมีการปิดถนนบริเวณแยกวังมะนาว จ.ราชบุรี โดยประชาชนสามารถใช้เส้นทางเลี่ยงจากกรุงเทพมหานคร เพื่อเดินทางไปภาคใต้โดยใช้ถนนหลวงเส้นทาง กม.70 เข้าถนนเลียบชายทะเล หรือใช้ถนนหลวงเส้นทาง กม.ที่ 83 ตัดเข้าถนนเพชรเกษมที่กม.127 และมีแนวโน้มว่าเกษตรกรจะยกระดับการชุมนุมโดยจะปิดถนนเพชรเกษม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมชุดเจรจาเพื่อไม่ให้ปิดเส้นทางดังกล่าว หากไม่สำเร็จก็มีการเตรียมเส้นทางเลี่ยงสำรองเพื่ออำนวยความสะดวกไว้แล้ว ส่วนขาเข้ากรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางที่ กม.86 วิ่งเข้าถนนพระราม 2 หรือใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมผ่านจังหวัดราชบุรี ซึ่งสามารถตัดเข้ากรุงเทพฯ ได้