ผบช.ก.จี้กองปราบตั้งชุดไล่ล่ามือฆ่า “อเวจี”‏

ผบช.ก.สั่งกองปราบปรามตั้งทีมไล่ล่ามือฆ่า “อเวจี” นักร้องนำและมือเบสวงเซอร์เรนเดอร์ ออฟ ดิวินิตี้ โดยแบ่งทีม 3 ชุดตามประกบแหล่งกบดาน ชี้พบพ่อผู้ต้องหามีพิรุธ พบประวัติเป็นลูกบุญธรรม เพิ่งมาทราบตอนโต รอจังหวะฆ่าเหยื่อ 3 ปี

วันนี้ (30 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.สั่งการให้ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป.ตั้งชุดสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุม นายปราการ หรือ สัน หาญพันธุ์บุษกร อยู่บ้านเลขที่ 27/17 หมู่ 6 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาคดีฆ่า นายสามองค์ ไตรศรัทธา อายุ 36 ปี นักร้องนำ และมือเบส ฉายา “อเวจี” ของวงเซอร์เรนเดอร์ ออฟ ดิวินิตี้ (Surrender of Divinity) วงแบล็คเมทัลชื่อดัง เมื่อคืนวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.วัชรพงษ์ ฉายวัฒนะ รอง ผผก.1 บก.ป.เป็นหัวหน้าชุด โดยแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ให้ พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ สว.กก.1 บก.ป.ดูแลเรื่องพยานบุคคลและจุดที่คาดว่าผู้ต้องหาใช้หลบซ่อน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมต่างๆ บ้านเพื่อนและบ้านญาติ ให้ พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.กก.1 บก.ป.ดูแลความเคลื่อนไหวทางการเงินของผู้ต้องหา ส่วน พ.ต.ต.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.1 บก.ป.รับผิดชอบเรื่องการติดต่อสื่อสารของคนร้าย โดยมีการนำหลักพฤติกรรมศาสตร์ และทฤษฎีการสืบสวนสอบสวนสมัยใหม่ เข้ามาใช้ เพื่อให้คดีดังกล่าวเป็นคดีตัวอย่าง เนื่องจากคนร้ายมีพฤติกรรมโหดเหี้ยมและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี โดยให้ทำงานประสานข้อมูลกับชุดสืบสวน สน.สายไหม ตลอดเวลา

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนของกองปราบปรามได้ข้อมูลผู้ต้องหามามากพอสมควร ซึ่งตอนนี้กำลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของคนร้าย แต่ช่วงนี้ค่อนข้างตามลำบาก เนื่องจากคนร้ายรายนี้มีความระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก โดยไม่ได้ติดต่อกับพ่อแม่ หรือเพื่อนสนิทคนไหนเลย หลังเกิดเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลมาว่าหลังก่อเหตุเพียง 1 วัน ผู้ต้องหาได้กดเงินไป 17,000 บาท เพื่อใช้หลบหนี เชื่อว่าคงหนีได้ไม่นาน มั่นใจว่าสามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ตามกฎหมายแน่นอน

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ได้พบว่าผู้ต้องหาเป็นบุตรบุญธรรม ของนายประคอง หาญพันธุ์บุษกร อายุ 57ปี อาทีพทนายความ เพิ่งมารู้เรื่องราวดังกล่าวก็ตอนที่โตแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนพ่อแม่ผู้ต้องหาพบว่าลูกชายเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ค่อยพูดค่อยจา ชอบนั่งสมาธิ และหาเงินมารักษาพ่อที่ป่วยเป็นเส้นเลือดตีบในสมองอีกด้วย แต่ทั้งนี้ระหว่างการสอบสวน นายประคองมีท่าทางพิรุธหลายอย่าง และที่อ้างว่าป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบนั้นก็ไม่ได้หนักหนามาก สามารถขับรถยนต์ไปไหนมาไหนได้ นอกจากนี้ พบว่าผู้ต้องหามีความเชื่อในซาตาน เคยมีเรื่องไม่ลงรอยกับผู้ตายเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว และมีการนัดเคลียร์กัน โดยครั้งนั้นผู้ต้องหาเตรียมจะสังหาร นายสามองค์ อีกด้วย แต่ไม่สบโอกาส เนื่องจากมีคนอื่นอยู่ด้วย 3-4 คน กระทั่งผ่านไป 3 ปี จึงโทรศัพท์หาภรรยาผู้ตายทำทีนำเสื้อไปให้สกีน แล้วนั่งดื่มเบียร์ด้วยกันแล้วอาศัยทีเผลอแทง นายสามองค์ จนเสียชีวิตดังกล่าว