ผบช.น.ประชุมเร่งรัดคดีแดงยิง “สุทิน ธราทิน” เสียชีวิต เตรียมนำคลิปวิดีโอที่มีผู้ถ่ายได้และแชร์ในโซเชียลฯ มาสืบสวนแกะรอยคนร้ายด้วย เผยพบปลอกกระสุน 11 มม.ตกในที่เกิดเหตุแต่ไม่พบหัวกระสุน ด้าน ผบ.ตร.สั่งสอบ “ความบกพร่องด่านความมั่นคง” สน.บางนา-บก.น.5
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (27 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต. ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.น. ร่วมกันประชุมเร่งรัดคดีจากกรณีเกิดเหตุปะทะหน้าจุดเลือกตั้งล่วงหน้าที่บริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยม เมื่อเวลา 13.45 น.วานนี้ (26 ม.ค.) จนเป็นเหตุให้นายสุทิน ธราทิน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เสียชีวิต โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.ชยุตกล่าวว่า ยังคงต้องไล่เรียงเหตุการณ์และตรวจสอบพยานหลักฐาน เพิ่ม จากกล้องวงจรปิด ซึ่งยังไม่พบหัวกระสุน แต่ปลอกกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุนั้นเป็นขนาด 11 มม. ซึ่งจะมีการนำคลิปวิดีโอซึ่งมีผู้เห็นเหตุการณ์ได้ถ่ายและมีการเผยแพร่ลงบนสื่อโซเชียลมาใช้ประกอบในการสืบสวนครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนทั้งหมดได้รายงานความคืบหน้าการสืบสวนแกะรอยคนร้ายที่ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิด คลิปวิดีโอที่ได้จากโซเชียลมีเดีย และการสอบสวนพยานที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมมอบหมายงานแบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาที่กระทำความผิด และผู้เกี่ยวข้องต่อไปใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง โดย ผบช.น.ได้ฝากเน้นย้ำถึงคณะทำงานว่าให้สืบสวนจากที่เกิดเหตุเป็นหลัก และตรวจให้ละเอียดชัดเจนในทุกประเด็น รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดว่ามีใครทำอะไรในที่เกิดเหตุ และสืบสวนไปถึงผู้เกี่ยวข้อง และผู้บงการเบื้องหลังให้ละเอียดชัดเจนในทุกประเด็น
พล.ต.ต.ฐิติราชกล่าวว่า นอกจากมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายแล้วยังมีรถกระบะที่ถูกทุบในที่เกิดเหตุ ตามภาพที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ ซึ่งชุดสืบสวนต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเป็นรถของใครเป็นรถที่มากับขบวนผู้คัดค้านหรือไม่ และนายสุทิน ผู้เสียชีวิตอยู่ในรถคันไหน ยืนอยู่ที่ตำแหน่งไหนก่อนจะถูกยิง เพื่อจะอนุมานจำลองการเกิดเหตุว่าคนร้ายยิงมาจากทิศทางใด
“ตอนนี้ต้องได้กลุ่มคนที่ทะเลาะวิวาทกันเข้ามาสอบ ถ้าได้ตัวมาแล้วก็จะชัดเจนขึ้นในการติดตามตัวคนร้าย หรือเป็นคนของใครบ้างที่เข้ามาก่อเหตุ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นตั้งปมเรื่องความขัดแย้งระหว่างสองกลุ่มที่คิดเห็นต่างกัน เหมือนการทะเลาะวิวาท ส่วนคลิปต่างๆ ที่มีการเผยแพร่ออกไป ทั้งภาพมุมสูง หรือภาพที่เกิดเหตุ ก็จะเร่งติดตามตัวมาสอบปากคำเพื่อหาความคืบหน้าต่อไป” พล.ต.ต.ฐิติราชระบุ
พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (รอง ผบก.น.5) กำกับดูแลท้องที่ สน.บางนา กล่าวว่า ได้นำพยานหลักฐานทางคดีที่ สน.บางนา รวบรวมไว้มาส่งมอบให้คณะทำงานสืบสวนสอบสวนนครบาลดำเนินการต่อเนื่อง ยืนยันว่าตำรวจจะติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ และจะปฏิบัติด้วยความยุติธรรมไม่เอนเอียงไปฝั่งไหนอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ลงนามคำสั่งให้คณะทำงานสืบสวนสอบสวน บช.น.เร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายและผู้กระทำผิดทั้งหมดจากเหตุการณ์ปะทะที่วัดศรีเอี่ยม โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงกำชับการปฏิบัติให้ละเอียดรัดกุม โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังศนานนท์ รอง ผบ.ตร.ลงไปควบคุมกำกับดูแล และเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบ และจับกุมผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็วที่สุด และให้จเรตำรวจตั้งกรรมกาตรวจสอบสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้รับผิดชอบทั้งในระดับ สน.บางนา และระดับกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ว่ามีความหละหลวมในการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่หรือไม่ปล่อยให้มีการลักลอบพกพาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดเข้ามาในพื้นที่ ทั้งที่มีคำสั่งตั้งด่านตรวจความมั่นคงอย่างเคร่งครัดตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้เดินเข้าห้องประชุมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมกำชับคณะทำงานสืบสวนสอบสวนนครบาลให้คลี่คลายคดีให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วันตามคำสั่งของ ผบ.ตร. พร้อมตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ บก.น.5 ที่ไม่เคร่งครัดตรวจตราด่านความมั่นคง ปล่อยให้มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งที่เป็นที่มีการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า และเกิดเหตุกลางวันแสกๆ โดยให้ทาง ผกก.สน.บางนา รอง ผกก.รับผิดชอบด้านการป้องกันปราบปราม ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของด่านตรวจความมั่นคงจุดต่างๆ ช่วงเวลา 06.00-18.00 น.ให้ทราบ โดย ผบช.น.ร่วมประชุมในตอนต้น จากนั้นเดินทางไปประชุมร่วมกับคณะทำงาน ศรส.ในทันที
