ดีเอสไอออกหมายเรียกแกนนำ กปปส.แถวที่ 3 ส่วน 12 แกนนำส่งทนายเข้ายื่นหนังสือขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากติดภารกิจการชุมนุม ส่วนอีก 4 รายยังล่องหนไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ด้านดีเอสไอชี้พิจารณา 2 หลักเกณฑ์ ก่อนจะเดินหน้าขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาทันที
วันนี้ (24 ม.ค.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มีหมายเรียกให้ผู้ต้องหาที่เป็นแกนนำแถวที่ 3 ในคดีพิเศษที่ 261/2556 กรณีการชุมนุมทางการเมือง มารับทราบข้อกล่าวหา ที่ สถาบันพัฒนาข้าราชการราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์ ซึ่งเมื่อเวลา 11.30 น.ได้มีทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายประกอบกิจ อินทร์ทอง นายพานสุวรรณ ณ แก้ว และนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ต้องหา มายื่นเรื่องขอเลื่อนพบพนักงานสอบสวน โดยให้เหตุผลในการขอเลื่อนพบพนักงานสอบสวนว่าติดภารกิจที่นัดหมายไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว และจะขอต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
จากนั้นเวลา 15.00 น.ได้มีทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ต้องหารวม 12 คน มายื่นหนังสือขอเลื่อนพบพนักงานสอบสวน ดังนี้
1. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
2. นายสาวิทย์ แก้วหวาน
3. นายคมสันต์ ทองศิริ
4. นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
5. นายมั่นแม่น กะการดี
6. นายสำราญ รอดเพชร
7. นางนาถยา แดงบุหงา
8. นางรังสิมา รอดรัศมี
9. นางทยา ทีปสุวรรณ
10. พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี
11. พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ
และ 12. นายถวิล เปลี่ยนสี โดยให้เหตุผลในการขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่าติดภารกิจชุมนุม โดยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และติดการประชุมคณะกรรมาธิการ วุฒิสภา
อย่างไรก็ตามยังเหลือแกนนำที่ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหาอีก 4 ราย คือ
1. นายสาธิต เซกัล
2. นายกิตติชัย ใสสะอาด
3. นายพิเชฐ พัฒนโชติ
และ 4. นายนัสเซอร์ ยีหมะ
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ 1.การขอเลื่อนตามเหตุผลที่ระบุในหนังสือมีเหตุตามกฎหมายที่จะไม่มาพบพนักงานสอบสวนหรือไม่ และ 2.พิจารณาว่าหากไม่มีเหตุสมควรตามกฎหมายก็จะพิจารณาว่าจะดำเนินการออกหมายเรียกอีกครั้ง หรือยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ออกหมายจับตามกฎหมาย โดยเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน
