รถตู้เก็บเงินแบงก์ชนท้ายรถฉีดน้ำต้นไม้ บรมราชชนนี

เกิดอุบัติเหตุรถขนส่งเงินสดในเครือธนาคารกรุงไทย พุ่งชนท้ายรถหกล้อฉีดน้ำรดต้นไม้ สำนักงานเขตตลิ่งชัน บน ถ.บรมราชชนนี 38 ส่งผลให้คนขับถูกอัดก๊อบปี้ติดคาพวงมาลัย บาดเจ็บสาหัส

วันนี้ (23 ม.ค.) ร.ต.ท.เอกพจน์ บุญล้อม พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในบริเวณทางลงสะพานข้ามทางรถไฟตลิ่งชัน ถนนบรมราชชนนีขาเข้า แขวงและเขตตลิ่งชัน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบประสานรถกู้ชีพและรถอุปกรณ์ตัดถ่างมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรุดไปตรวจสอบ

โดยที่เกิดเหตุอยู่ในช่องทางเดินรถฝั่งคู่ขนาน บริเวณเลนขวาสุดตรงทางลงสะพานก่อนถึงปากซอยบรมราชชนนี 38 เพียง 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถตู้ยี่ห้อนิสสัน รุ่นเออแวน สีฟ้าขาว ทะเบียน ตท 7336 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ K-170 ของบริษัท กรุงไทยกิจบริการ จำกัด (KGS) ซึ่งเป็นรถขนส่งเงินสดในเครือธนาคารกรุงไทย พุ่งชนท้ายรถหกล้อฉีดน้ำรดต้นไม้ตามข้างถนนของสำนักงานเขตตลิ่งชัน ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นฟิวโซ สีเหลือง ทะเบียน 96-9782 กรุงเทพมหานคร ยับเยิน คนขับได้รับบาดเจ็บถูกคอนโซลทับร่างติดอยู่หลังพวงมาลัย เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือออกจากตัวรถอย่างทุลักทุเล ทราบชื่อต่อมาคือ นายปกรณ์ คูเจริญ อายุ 35 ปี ตำแหน่งพนักงานขับรถส่งทรัพย์สินของบริษัทดังกล่าว สภาพด้านหน้ารถตู้ด้านขวาพัง เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บขาหักทั้ง 2 ข้าง จึงรีบนำตัวส่งให้แพทย์ รพ.ศิริราช ทำการผ่าตัดรักษาอาการอย่างเร่งด่วน

นายพิสิฏฐ์ คตกฤษณ์ อายุ 45 ปี พนักงานขับรถน้ำสำนักงานเขตตลิ่งชัน ให้การว่า ขับรถออกจากที่ตั้งออกมาปฏิบัติงานรดน้ำต้นไม้บริเวณเกาะกลางถนน และข้างถนนตามปกติ จังหวะที่ทำงานนั้นมีพนักงานถือหัวฉีดอยู่ด้านหลังด้วยจำนวน 1 คน และได้ทำการเปิดสัญญาณไฟวับวาบสีเหลืองแจ้งให้รถด้านหลังทราบตามกฎระเบียบทุกอย่าง ระหว่างที่ขับรถให้พนักงานถือหัวฉีดรดน้ำต้นไม้อยู่นั้น ได้ยินเสียงรถตู้คู่กรณีเบรกในระยะกระชั้นชิดมาจากช่วงกลางสะพาน ก่อนพุ่งชนท้ายรถตนจนถังบรรจุน้ำแตก ทำให้พื้นถนนเจิ่งนองเต็มไปหมด

จากการสอบสวน นายธงชัย จุลนาค อายุ 35 ปี พนักงานขนส่งทรัพย์สิน ซึ่งนั่งมาในรถด้วยกัน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งรถตู้ไปเก็บเงินตามตู้เอทีเอ็ม บนถนนบรมราชชนนีมาได้ประมาณ 2 ล้านบาท และกำลังจะรีบนำเงินไปส่งที่บริษัทย่านบางขุนนนท์ จังหวะที่ นายปกรณ์ คนขับกำลังเร่งเครื่องขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟ โดยใช้เลนขวาสุด โดยมีรถเก๋งขับนำหน้าในระยะกระชั้นชิดอยู่ 1 คัน และเมื่อถึงทางลงสะพานรถเก๋งดังกล่าวได้หักพวงมาลัยออกซ้าย เพื่อหลบรถน้ำที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างกะทันหัน แต่ นายปกรณ์ หักหลบไม่ทัน จึงพุ่งชนรถสำนักงานเขตตลิ่งชันเข้าเต็มเปาจนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุตนต้องรีบโทรศัพท์แจ้งหัวหน้างานให้รีบเดินทางมารับเงินทั้งหมดไปเก็บไว้ที่บริษัท

ด้าน ร.ต.ท.เอกพจน์ กล่าวว่า ยังไม่แจ้งข้อหาแก่ผู้ใด ต้องรอผลการสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บ และพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเสียก่อน เบื้องต้นความเสียหายที่เกิดขึ้นหากพบเป็นความผิดของผู้ใดทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ก็สามารถชดใช้ค่าสินไหมได้อยู่แล้ว