“เฉลิม”จัดตร.มือพระกาฬ ชำนาญงานใต้ดิน-อุ้มฆ่า!

สน.พระอาทิตย์

ยังคงคลุมเครือไร้ข้อสรุปที่ชัดเจน ต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับ“กำนันสุเทพ” ในการนำขบวนมวลมหาประชาชนเดินรณรงค์ชัตดาวน์กรุงเทพฯที่มีคนร้ายลอบปาระเบิดใส่ขบวนผู้ชุมนุม ย่านบรรทัดทอง

แม้กำนันสุเทพจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บกว่า 30-40 ราย

ฝ่ายผู้ชุมนุมต่างก็เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของรัฐบาลเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นฝีมือของตำรวจ คู่ขัดแย้ง ถึงขนาด “กำนันสุเทพ”ประกาศบนเวทีด้วยถ้อยคำดุเดือด

“ไม่ต้องกลัวว่าเป็นมือที่สาม ผมจะบอกว่าคือมือพวกมึงทั้งนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์มันจัญไรจัญไรทั้งโคตร โกงทั้งโคตร ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง มักใหญ่ใฝ่สูง ผมไม่กลัวไม่ใส่เสื้อเกราะ พรุ่งนี้ 10 โมง จะเดินอีก เชิญชวนชาวกรุงเทพฯให้ออกมาขับไล่รัฐบาลอีก เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์คือนางมารร้ายไม่ใช่โง่ พรุ่งนี้ขอให้พี่น้องทุกจังหวัดเตรียมการปิดจังหวัดไม่ให้ราชการทำงานได้สำหรับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ถ้าท่านไม่ใช่คนขว้างระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ขอให้ออกมาร่วมชุมนุมกับเราเพราะเราคือประชาชนเหมือนกัน”

ตรงข้ามกับฝ่ายตำรวจ ต่างดาหน้าออกมาปัดกันพัลวันโดยเฉพาะแม่ทัพใหญ่สีกากี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้วแม้จะยอมรับว่าระเบิดย่านบรรทัดทองเป็นระเบิดลักษณะคล้ายลูกเกลี้ยงแต่ปฏิเสธต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับเหล่าขุนตำรวจทั้งหลาย

“สิ่งที่ห่วงใยมาเสมอคือ มักจะมีมือที่ 3 มาก่อเหตุตรงนี้เรากังวลมาก จึงได้มีมาตรการตั้งจุดตรวจค้นอาวุธและช่วงหลังจะเห็นว่าเราค้นอาวุธได้มาก ทั้งระเบิดปืนต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าจากการวิเคราะห์สถานการณ์ใกล้เคียงกับสิ่งที่คาดไว้”

ที่สำคัญผู้นำฝ่ายตำรวจ พยายามที่จะส่งสัญญาณเหมือนมีนัยยะในเรื่องเส้นทางที่ขบวนกำนันสุเทพใช้ผ่าน “ได้รับรายงานว่าจุดถนนบรรทัดทองเป็นจุดที่อยู่นอกแผนที่ กปปส.ได้แจ้งไว้จากเดิมทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดูแลได้”

ซึ่งหากตีเนื้อความตามที่พล.ต.อ.อดุลย์บอกอาจหมายถึงไม่มีใครรู้เส้นทางที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่านนอกจากม็อบ

แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือใคร ฝ่ายไหนแต่ความเคลื่อนไหวในสถานการณ์ต่างๆช่วงที่ผ่านมาก็มีนัยยะให้น่าจับตาเช่นกันโดยเฉพาะการมาของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หลังจากถูกลดบทบาทที่เกี่ยวข้องกับตำรวจในช่วงปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี(ครม.) จาก รองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อยู่พักใหญ่

แต่เมื่อสถานการณ์การเมืองรุนแรง มีกลุ่ม กปปส. กำเนิดขึ้นมาในการเป็นแกนหลักในการต่อต้านระบอบทักษิณ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ภายใต้การนำของ “กำนันสุเทพ”อดีตนักการเมืองรุ่นเก๋า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”รักษาการนายกรัฐมนตรี กลับมาใช้บริการ “ร.ต.อ.เฉลิม”

ด้วยการมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการ บังคับใช้กฎหมายโดยมีภารกิจสำคัญคือการจับกุม “กำนันสุเทพ”

เพราะเป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่าร.ต.อ.เฉลิม นอกจากเป็นนักการเมืองรุ่นเก๋าไม่ต่างอะไรกับ “กำนันสุเทพ”แล้ว อดีตตำรวจเก่าอย่างเหลิมบางบอนก็มีรุ่นน้อง มีลูกน้องที่ใช้งานเป็นไม้เป็นมือทั้งบนดินและใต้ดินอยู่เป็นจำนวนมาก

ซึ่งหลังจาก ร.ต.อ.เฉลิมรับดาบจากนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาก็เริ่มจัดทัพปรับทิศเดินเกมรุกตามจับกุมกำนันสุเทพทันทีด้วยการใช้ “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยาเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นหัวหน้าทีม พร้อมดึงลูกน้องใกล้ชิดเฉลิมเข้ามาช่วยงานอย่างเต็มพิกัด

พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. อดีต ผบช.น. ,พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบช.น.ฝ่ายสืบสวน อดีตมือปราบจากกองปราบปราม ,พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.ศูนย์สืบสวนนครบาล รวมทั้งยังดึง”ฉลามดำ ปากน้ำโพ”พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพ็ชรศักดิ์ อดีต ผบช.ภ.4 ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วมาร่วมทีมด้วย

ต้องบอกว่าตำรวจและอดีตตำรวจแต่ละรายที่”เฉลิม”ดึงมาทำงานครั้งนี้ในแวดวงสีกากีต่างรับรู้ว่า งานระดับบนดินหรือใต้ดินเข้าขั้นพระกาฬ

ซึ่งการนำมาช่วยงานครั้งนี้แบ่งแยกเนื้องานนั้น พล.ต.อ.ภานุพงศ์พล.ต.ท.จักรทิพย์ และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะอยู่กลุ่มบุ๋น รวมทั้งหาทุนสนับสนุนโดยเฉพาะ “จักรทิพย์”และ “แจ๊ด”นั่นแค่ขยับตัวไม่ว่าจะเป็น”แป๊ะตี๋”หรือ”ตือ”ก็ต้องสำรองจ่ายให้เจ้านายเต็มที่

ฝ่ายบู๊ คงต้องยกเป็นหน้าที่ “ฐิติราช” “พยนต์” และฉลามดำ เพราะ 2รายแรกคุมงานสืบสวนและศูนย์สืบสวน มีนักสืบในมือเยอะรวมทั้งพล.ต.ต.ประยนต์ลูกน้องแถบๆอีสานมีเยอะ เช่นเดียวกับพล.ต.ท.สมพงษ์ งานลับๆงานเฉพาะๆ ไม่ต้องพูดถึงคนในวงการรู้กันเป็นอย่างดี ชนิดเจ้าพ่อ มือปืนนักเลงหัวไม้ ได้ยินชื่อเป็นขยาด สายขาว สายเทา สายดำ ต่างรู้จักหมด

แม้งานหลักที่ “เฉลิม”รับหน้าที่มาจับ “กำนันสุเทพ”จะยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม เพราะยังไม่สามารถจับกุมลุงกำนันได้ตามเป้าหมายแต่งานแวดล้อมที่ส่งสายกระจายไปก็ได้ผล สามารถกดดัน กปปส. ไม่ให้ขยับขับเคลื่อนได้อย่างคล่องแคล่วอยู่พอสมควร

มือพระกาฬของ “เฉลิม”ชุดนี้เลยเป็นทีมเฉพาะกิจที่น่าจะจับตา แต่จะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หลายๆความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงนี้หรือไม่เป็นข้อสงสัยที่น่าเชื่อ.