คนร้ายลอบปาระเบิดชนิดสังหารที่ผลิตในประเทศจีน เข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิกลางวันแสกๆ หลังเกิดเหตุการด์ได้วิ่งไล่ตามคนร้าย กลับถูกปาระเบิดและยิงสกัดเพิ่อเปิดทางหลบหนี เจ็บรวม 28 ราย รวมทั้งผู้สื่อข่าว นสพ.โพสต์ทูเดย์ ส่วนคนร้ายวิ่งขึ้น จยย.หลบหนีไปได้
วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. เกิดเหตุระเบิด 2 จุดที่บริเวณเวทีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบจุดเกิดระเบิดมี 2 จุด จุดแรกอยู่บริเวณป้ายรถเมล์ ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี อยู่ด้านหลังเวทีปราศรัย ใกล้กับเต๊นท์สื่อมวลชน ที่เกิดเหตุพบหลุดระเบิดกว้างประมาณ 5 ซม. ลึก 2 ซม. มีสะเก็ดระเบิดตกอยู่บริเวณโดยรอบ ใกล้กันพบกระเดื่องตกอยู่บริเวณริมฟุตปาธ ส่วนจุดที่ 2 อยู่บริเวณริมฟุตปาธเชิงสะพานลอยถนนราชวิถี ซึ่งเป็นซุ้มขายเสื้อผ้าของทางกลุ่มผู้ชุมนุม พบหลุมระเบิดกว้างประมาณ 5 ซม. ลึกประมาณ 2 ซม. พบคราบเลือดและสะเก็ดระเบิดตกอยู่ไปทั่วบริเวณ เศษเสื้อผ้าขาดกระจัดกระจาย ใกล้เคียงพบกระเดื่องตกอยู่บริเวณริมฟุตปาธเกาะกลางถนนและพบสลักระเบิดตกอยู่ นอกจากนี้ยังพบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน บน 7412 นนทบุรี และรถตู้วิน โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮน 6507 กทม. ถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายอีกด้วย
จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 28 ราย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลราชวิถี 13 ราย โรงพยาบาลรามา 9 ราย โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ 2 ราย และโรงพยาบาลจุฬาฯ 4 ราย ซึ่งผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัส 7 ราย และหนึ่งในนั้นมีผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ชื่อนา น.ส.สิทธิณี ห่วงนาค อายุ 43 ปี รวมอยู่ด้วย
สอบถามการ์ดของกลุ่ม กปปส.เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากทางด้านหลังเวที ใกล้เคียงกับเต็นท์ของสื่อมวลชน ตนพร้อมการ์ดคนอื่นๆ จึงได้วิ่งไปดู จากนั้นพบเห็นคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อสีขาวด้านใน สวมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตสีเขียว โดยคนร้ายวิ่งมาทางถนนราชวิถี พวกตนจึงได้วิ่งไล่ตามไป แต่ระหว่างนั้นคนร้ายได้ชักปืนยิ่งขึ้นฟ้า 3 นัด และวิ่งไปยังข้างโรงพยาบาลราชวิถี แล้ววิ่งขึ้นสะพานลอยเพื่อข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม จากนั้นคนร้ายได้ขว้างระเบิดลงมาด้านล่างบริเวณริมฟุตปาธจุดที่ 2 อีกครั้ง ทำให้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นและมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังเกิดระเบิดผู้ชุมนุมได้มีการตกใจแตกฮือกันเป็นอย่างมาก และผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามที่จะวิ่งตามคนร้ายไป จากนั้นคนร้ายได้วิ่งเข้าซอยราชวิถี 14 หรือซอยวัดมะกอก ซึ่งทางการ์ด กปปส.ได้วิ่งไล่ตามไป รวมทั้งมีวิน จยย.ใกล้เคียงวิ่งไล่ตามคนร้ายไปด้วย แต่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงสวนมา ทำให้ถูกวิน จยย.ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่คนร้ายวิ่งหนีเข้าไปภายในซอยราชวิถี 14 ซึ่งขณะนั้นมีกลุ่มการ์ด กปปส.และกลุ่มวิน จยย. พร้อมทั้งนายมานพ ชนินนัตติพงศ์ อายุ 45 ปี ทำงานอยู่ที่กรมอู่ทหารเรือ ได้วิ่งตามคนร้ายไปติดๆ โดยภายในซอยดังกล่าวเป็นซอยตันจึงคิดว่าคนร้ายจะต้องจนมุมแน่ๆ แต่ปรากฏว่าคนร้ายได้วิ่งเข้าไปหลบในบ้านหลังสุดท้าย ซึ่งเป็นบ้านของนายมานพนั่นเอง จากนั้นนายมานพได้เข้าไปล็อกตัวคนร้าย แต่คนร้ายได้สะบัดพยายามจะหลบหนีพร้อมชักอาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ท้องของนายมานพจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไปทางด้านหลังบ้าน โดยถีบสังกะสีหลังบ้านพังเสียหาย แล้วหลบหนีไปทางวัดมะกอก
จากการสอบถามนางจำนง ชินวงศ์ อายุ 45 ปี ชาวนครศรีธรรมราช หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งขายของอยู่บริเวณเชิงสะพานลอยริมถนนราชวิถี พบเห็นกลุ่มการ์ด กปปส.วิ่งไล่ชายคนร้ายมา จากนั้นเห็นคนร้ายวิ่งขึ้นสะพานลอย ก่อนที่จะขว้างระเบิดลูกที่ 2 ตามมา และระเบิดได้มาตกอยู่ใกล้ๆ กับจุดที่ตนขายของอยู่จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ซึ่งทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ แผงค้าขายเสียหาย ตนจึงได้ค่อยๆ คลานออกมาและถูกพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาล
ต่อมาเวลาประมาณ 14.30 น. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่หน่วยดีโอดี ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุระเบิดทั้ง 2 จุด เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ รวมทั้งภายในซอยราชวิถี 14 ด้วย ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายหลบหนีไป โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ และเตรียมประสานขอภาพจากกล้องจรปิดที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุเพื่อมาตรวจสอบทั้งหมด
ด้าน พ.ต.อ.กำธร เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าระเบิดทั้ง 2 จุด เป็นระเบิดชนิดเดียวกัน คือ อาร์จีดี 5 (RGD5) ซึ่งผลิตในประเทศรัสเซีย เนื่องจากพบกระเดื่องระเบิดทั้ง 2 จุด และเหตุระเบิดครั้งนี้พบว่าคนร้ายใช้ระเบิดชนิดเดียวกันเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทองด้วย
ต่อมานายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.เวทีอนุสาวรีย์ชัยฯ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีบุคคลต้องสงสัยมาสำรวจพื้นที่บริเวณเต๊นท์ด้านหลังเวทีปราศรัย หลังจากนั้นการ์ดได้นำตัวออกจากพื้นที่ และหลังจากนั้นไม่นานคนร้ายได้ขว้างระเบิดสังหารมาถูกต้นไม้และตกลงพื้นก่อนจะเกิดระเบิดขึ้นบริเวณด้านหลังเวที โดยมีผู้หญิงหนึ่งคนที่เห็นเหตุการณ์ และการ์ด กปปส.จำนวนหนึ่งไล่ตามไป ทำให้คนร้ายขว้างระเบิดลูกที่ 2 มาอีกบริเวณสะพานลอยข้างโรงพยาบาลราชวิถี ประชาชนก็ช่วยกันวิ่งไล่ตามไปอีก คนร้ายจึงได้วิ่งหลบหนีเข้าซอยไปและชักปืนยิงใส่ 1 นัด เบื้องต้นคาดว่ากลุ่มคนร้ายมีประมาณ 6 คน และหนึ่งในนั้นเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยได้ขึ้นจักรยานยนต์หลบหนีไปทางแยกตึกชัย ซึ่งตนคาดว่าเบื้องต้นคนร้ายหวังจะขว้างระเบิดใส่ตน เพราะก่อนหน้านี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม แต่การ์ดเชิญตัวออกไปจากนั้นก็พบชายลักษณะมีพฤติกรรมแปลกๆ วนเวียนอยู่ด้านหลังเวทีอีก
“ขณะเกิดเหตุผมได้นั่งพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งในเรื่องมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งจากวิถีของระเบิดเชื่อว่าน่าจะมีจุดมุ่งหมายมาที่แกนนำ เพราะวิถีพุ่งมาทางเต็นท์ของแกนนำอย่างชัดเจน” นายถาวรกล่าว