ผบ.ตร.ประเมินสถานการณ์การชุมนุม มีความซับซ้อน ทำให้เกิดความไร้ระเบียบในสังคม โยนมือที่สามจ้องก่อเหตุ แต่ไม่เกี่ยวกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ ย้ำสนองรัฐติดตามจับแกนนำ กปปส.หมายหมายจับ
วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และ ผอ.ศอ.รส. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ร่วมให้โอวาทและให้กำลังใจคณะทำงาน บริหารงานสายตรวจ และชุดเคลื่อนที่เร็วชุดวางแผนเผชิญเหตุ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุม หลังจากตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา โดยสามารถตั้งด่านตรวจค้นจับกุม ผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืน และยาเสพติด โดยเฉพาะใบกระท่อมได้จำนวนมาก ซึ่ง ผบ.ตร.กล่าวให้โอวาทว่าสถานการณ์ในขณะนี้เป็นการชุมนุมทางการเมืองที่มีความซับซ้อน คาดการณ์ยาก ปัจจุบันอยู่ในช่วงที่กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในขั้นของการสร้างความวุ่นวาย ไร้ระเบียบในสังคม ก่อนกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการ ซึ่งการตั้งด่าน จุดตรวจค้นอย่างเข้มข้นจะเป็นวิธีการควบคุมสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมในขณะนี้ว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมเป็นไปด้วยดี แต่ยังห่วงมือที่ 3 ฉวยจังหวะก่อเหตุรุนแรง ตรงนี้ต้องระวังตอนนี้จากการข่าวพบว่า กลุ่มมือที่ 3 ยังมีความพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อยกระดับการชุมนุมให้รุนแรงขึ้น สังเกตได้จากความพยายามพกพาอาวุธเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมมากขึ้น โดยตำรวจก็จับกุมได้มากขึ้นด้วย ที่ผ่านมาจับกุมยึดทั้งอาวุธ ใบกระท่อมได้พอสมควร การตั้งด่านตรวจค้นของตำรวจก็ยับยั้งความรุนแรง
เมื่อถามว่าการสร้างในห้วงนี้มองว่าเพื่อเป็นผลบวกแก่ฝ่ายผู้ชุมนุมใช่หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ก็ทำนองนี้ ซึ่งตำรวจก็พยายามเพิ่มมาตรการสืบสวนสอบสวน สายตรวจ และพิสูจน์ทราบเพื่อยับยั้ง ที่ผ่านมาพบว่ามีการเสพใบกระท่อมเพื่อให้เกิดความฮึกเหิม
ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีระเบิดหน้าบ้านพักนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า รับรายงานว่าระเบิดที่ใช้เป็นระเบิด เอ็ม 26 ชัดเจนว่าไม่เชื่อมโยงกับการจับกุมคนร้ายในพื้นที่ สน.บางนา ซึ่งบ้านพักนายอภิสิทธิ์ก็เป็นก่อเหตุในภาพรวม ที่มีการเตือนโดยตลอด ส่วนกลุ่มก่อเหตุจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่ยิงใส่ร้านกาแฟหน้าพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่่างการสืบสวน ซึ่งจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่สร้างสถานการณ์ในการชุมนุมทางการเมืองครั้งก่อนๆ หรือไม่ต้องพิสูจน์ทราบก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการก่อเหตุใน กทม.ช่วงนี้การก่อเหตุเหมือนการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ไม่เหมือนกัน ส่วนที่ตำรวจถูกทำร้ายบ่อยครั้งในช่วงนี้ ก็ยอมรับว่าเป็นห่วง แต่งานนี้ตำรวจต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ ซึ่งตรงนี้กำชับให้ตำรวจมียุทธวิธีป้องกันตัวเอง ปรับวิธีการทำงานเพื่อระมัดระวังตัว
ส่วนกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี จี้ให้ตำรวจจับกุมแกนนำกปปส.ที่มีหมายจับทุกคน ผบ.ตร.กล่าวว่า การติดตามจับกุมเป็นหน้าที่ที่ตำรวจต้องทำอยู่แล้ว เป็นขั้นตอนปฏิบัติที่ต้องติดตามอยู่แล้ว
ด้าน พล.ต.อ.เอก กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่บ้านพักนายอภิสิทธิ์ ภายในซอยสุขุมวิท 31 ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากพนักงานสืบสวนว่าลักษณะทิศทางการก่อเหตุน่าจะมาจากบริเวณถนนพร้อมจิตร ทางด้านทิศใต้ของบ้านพัก ซึ่งคงต้องรอการยืนยันภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ประสานงานไปยัง กทม.เพื่อนำมาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเหตุระเบิดบ้านนายอภิสิทธิ์นั้นไม่เชื่อมโยงกับกรณีที่ตำรวจ สน.บางนา จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนและระเบิดที่บริเวณหน้ากรมอุตุนิยมวิทยา เนื่องจากวัตถุระเบิดเป็นคนละชนิดกัน และทิศทางการเดินทางผู้ต้องหากลุ่มนี้มาจากย่านปากเกร็ด โดยใช้เส้นทางด่วน แล้วมาเจอด่านตรวจ สำหรับเหตุระเบิดบ้านพักนายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส.ย่านปากเกร็ดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ยังไม่ทราบชนิดของระเบิดว่าจะเป็นชนิดใดหรือเป็นประทัดยักษ์หรือไม่ เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีกับ พฐ.ลงพื้นที่ไปเก็บวัตถุพยานแล้ว ทั้งนี้ยังไม่เชื่อมโยงการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
