ปทุมธานี - สภ.คลองหลวง รับแจ้งอุบัติเหตุรถเมล์ ยูโร ปอ.สาย 29 คนขับหลับใน ชนรูด 5 คัน เจ็บ 3 ราย
วันนี้ (16 ธ.ค.) ร.ต.ท.ปริยพล แสนเสน ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุมีรถชนกัน 5 คันซ้อน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่เกิดเหตุในช่องทางคู่ขนานขาเข้า กิโลเมตรที่ 35-36 หมู่ที่ 3 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ หมายเลขทะเบียน ผค 2365 ชลบุรี อยู่ในสภาพพังยับเยินทั้งคัน โดยมี นายเสมียน นามกุดเรือ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 1 ต.โคกภู อ.ภูพาน จ.สกลนคร คนขับอยู่ในอาการบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีรถมินิบัสสีส้ม สาย 34 หมายเลขทะเบียน 14-5638 กทม.และรถมินิบัสสีส้ม สาย 39 หมายเลขทะเบียน 14-7406 กทม.อีกจำนวนสองคัน ที่ถูกชนด้านหน้าและท้าย และห่างกันเล็กน้อย พบรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน มฉ 20 กทม.ที่มีนายศักดิ์ชัย จุ้ยชื่น อายุ 52 ปี ที่ถูกชนท้ายรถจนพังยับเยินเช่นกัน หลังจากถูกรถเมล์สาย ปอ.29 (เบอร์ข้างรถ 22) เป็นรถยูโร สีเหลือง หมายเลขทะเบียนป้ายแดง 07709 ที่ขับชนท้ายรถทั้งหมด และเสียหลักลงข้างทาง และมีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 3 ราย ส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์รังสิต)
เจ้าหน้าที่สอบสวนนายสุรพล ผาดุงแคน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1392 ต.วังขอนขวาง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี คนขับรถเมล์ ให้การว่า ออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์-ไปอนุสาวรีย์ชัย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ ก็วูบไป และได้พุ่งไปชนกับรถกระบะ และรถเมล์เล็กอีก 2 คัน จนพุ่งไปชนท้ายกับรถแท็กซี่ ที่จอดข้างทางก่อนจะลงไปสงบอยู่ข้างทางดังกล่าว ส่วนคนขับรถมินิบัสทั้งสองคนนั้นไม่ได้อยู่บนรถ ลงไปกินข้าวข้างทาง
ด้าน นางเนตรนภา ปาทา อายุ 69 ปี ผู้โดยสารเล่าเห็นเหตุการณ์ ให้ฟังว่า ตนเองนั่งรถเมล์ยูโร มาจากบางขันคลองหลวง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ รถเมล์วิ่งเข้าชนท้ายรถกระบะ ก็ได้ยินเสียงดังโครม จากนั้นรถก็ชนท้ายรถมินิบัสทั้งสองคัน ก่อนที่รถจะเสียหลักไปตกลงข้างทางดังกล่าว และรถเมล์ไปชนกับรถที่จอดอยู่ 4 คัน โชคดีไม่มีใครเสียชีวิต
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายสุรพล คนขับรถเมล์ ไปสอบสวนที่ สภ.คลองหลวง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ” โดยรถที่ได้รับความเสียหายนั้น ทางเจ้าของรถได้เรียกประกันมาตกลงแล้ว ทำให้รถที่สัญจรไปมาต้องติดหนึบยาวกว่า 4 กิโลเมตร
