ศอ.รส.ประเมินสถานการณ์รายวัน ชี้ม็อบกำลังยกระดับนำไปความรุนแรง อ้าง กม.ขู่ทั้งเช้า-เย็น ปั้นข่าวลวงมวลชนเริ่มหดหาย เหตุไม่เห็นต่อการบุกยึดสถานที่ราชการ
วันนี้ (26 พ.ย.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมในขณะนี้ ว่า กลุ่มเครือข่ายประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. บางส่วนที่ยึดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เคลื่อนย้ายมากดดันเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ที่แยกวัดเบญจมบพิตร พร้อมสั่งการให้ยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้ได้ ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวาน เคลื่อนไปกดดันเจ้าหน้าที่ กระทรวงต่างๆ บนถนนราชดำเนิน และมีแนวโน้มบุกรุกกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ พบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมหลายส่วนที่ถูกชักนำให้กระทำผิด สถานการณ์ล่อแหลมต่อการถูกดำเนินคดี นอกเหนือจากคดีอาญา ยังจะเข้าข่ายฝ่าฝืนพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ด้วย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่าการประชุมสภาสามารถดำเนินการได้จนเสร็จสิ้น รวมทั้งเพิ่มความถี่รถสายตรวจออกตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อย พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินหน้าดำเนินคดีตามกฎหมายกับแกนนำและผู้ชุมนุมที่ละเมิดกฎหมาย ทั้งเรื่องการปลุกระดมคนให้หยุดงาน และการบุกรุกสถานที่ราชการต่างๆ พร้อมกำหนดยุทธวิธีที่เหมาะสม ในการเปิดพื้นที่ให้ข้าราชการกระทรวงที่ถูกยึด เข้าไปทำงานได้อย่างปลอดภัย โดยมีการส่งทีมเจรจาเข้าไปพูดคุยกับแกนนำจุดต่างๆ แล้ว แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ย้ำว่าตำรวจจะใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหา
จากการข่าวล่าสุด พบว่า มวลชนส่วนใหญ่เริ่มทยอยเดินทางกลับ และเริ่มมีผู้ไม่เห็นด้วยต่อการบุกยึดสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบอีกต่อไป
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่ายอมไม่ได้ หากมีการบุกรุกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นจุดพักกำลังพล หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามหลักสากล ส่วนหน่วยราชการอื่นๆ ได้มีการส่งกำลังไปสนับสนุนแล้ว โดยจะพยายามป้องกันการบุกรุก แต่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะ
โดยขณะนี้ ประเมินว่า กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในขั้นตอนพยายามก่อให้เกิดความรุนแรง ความวุ่นวาย การปะทะ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ฝ่ายตัวเองต้องการ ส่วนที่ผู้ชุมนุมประกาศยกระดับในวันพรุ่งนี้ ศอ.รส.ต้องวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์อีกครั้ง