หนุ่มเลือดร้อนยิงถล่มบ้านคู่อริเผยมีเหตุวิวาท ก่อนตามพวกกว่า 10 คนมาเปิดฉากยิงถล่มบ้าน ทำให้มีผู้เสียชิวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ตำรวจเร่งไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 01.30 น. ร.ต.ท.สุพัฒน์ สระประโคม ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ที่หมู่ 1 ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ.สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ ผกก.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.ท.พิเชษฐ์ จันทร์ทรัตน์ สว.สส.สภ.บางศรีเมือง พร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบ้านเช่า 2 ชั้น เกิดเหตุที่ชั้น 2 ของบ้านดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตนอนหงายอยู่กลางบ้าน สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา มีบาดแผลถูกยิงที่ ทราบชื่อคือ นายปกรณ์ เต็กอวยพร อายุ 30 ปี เป็นช่างอะลูมิเนียม อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 7 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี มีบาดแผลที่แขนขวา 1 นัด ใต้รักแร้ขวา 1 นัด ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือนายอรรถพล โพธิ์จีน อายุ 36 ปี มีบาดแผลที่อุ้งมือขวา 1 จุด มีพลเมืองดีนำส่ง รพ.ไปก่อนหน้านี้ จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 6 ปลอก และขนาด .22 จำนวน 1 ปลอก เศษโลหะ 3 ชิ้น และพบอาวุธปืนสั้นดัดแปลงไม่ทราบขนาด 1 กระบอก อาวุธปืนยาวดัดแปลง 4 กระบอก อาวุธมีด 1 เล่ม พร้อมอุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนจำนวน 3 ชิ้น ในบ้านที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนนายนิรุตติ์ เอี่ยมแก้ว อายุ 39 ปี เป็นหัวหน้าช่าง บริษัท เฟลมเทค จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 12/2 หมู่ ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าผู้เสียชีวิตเป็นช่างอลูมิเนียมมาทำงานที่บริษัทดังกล่าวได้ประมาณ 1 ปี ผู้เสียชีวิตได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อนอีก 2 คนตั้งแต่เวลาประมาณ 21.30 น. ส่วนตนนั่งทำงานอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน หลังจากผู้ตายกับเพื่อนนั่งดื่มสุราได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ผู้ก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์มากับเพื่อนอีก 1 คน พร้อมกับตะโกนถามว่า “มึงทำน้องกูทำไม” แต่ตนไม่ทราบว่าเรื่องอะไร หลังจากนั้นทั้งสองได้มีปากเสียงกันและมีการขวางขวดสุราใส่กัน ต่อมาผู้ก่อเหตุได้ขับรถไปตามเพื่อนๆ มาประมาณ 10 คนแล้วได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในบ้าน ผู้เสียชีวิตได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้จนทำให้นายอรรถพลได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นผู้เสียชีวิตได้ถูกอาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนพยานและหลักฐานในที่เกิดเหตุ และจะเร่งติดตามตัวคนร้ายเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป