“อดุลย์” ย้ำดูแลม็อบตามมาตรฐานสากล แจงจำเป็นต้องมีการเตรียมอาวุธและอุปกรณ์ในการรักษาความสงบ ยันจะใช้กรณีจำเป็นเท่านั้น เชื่อกำลังตำรวจสามารถดูแลความสงบได้
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าตรวจการดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมชี้แจงขั้นตอนการดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุม
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวว่าจะมีกลุ่มมือที่ 3 เข้าก่อความไม่สงบในระหว่างที่มีการชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นต้องมีการเตรียมอาวุธและอุปกรณ์ในการรักษาความสงบคือแก๊สน้ำตาชนิดขว้างแบบควัน, โล่, กระบอง, รถฉีดน้ำที่ภายในบรรจุแก๊สน้ำตา, ปืนยิงกระสุนยาง และกระสุนยาง โดยนำมาใช้ในกรณีที่มีความจำเป็น เท่านั้น หากเกิดการปะทะกัน ตำรวจจะใช้แก๊สน้ำตาเป็นอันดับแรก เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใกล้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากแก๊สน้ำตาดังกล่าว เพียงแค่ทำให้เกิดอาการแสบ และมีผลเพียง 10 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นจะปรับระดับการยับยั้งตามสถานการณ์ความรุนแรง โดยจะใช้กระสุนยางเป็นอันดับสุดท้าย และจะใช้ในกรณีที่มีผู้ชุมนุมจับอาวุธและมุ่งจะทำร้ายเจ้าหน้าที่
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวต่อไปว่า ส่วนการข่าวในเรื่องของชายชุดดำตนสั่งการให้มีการดูแลอย่างดีที่สุด ระดับความรุนแรงในเรื่องของชายชุดดำหรือกลุ่มมือที่ 3 นั้น ถึงขั้นที่อาจจะมีผู้เสียชีวิตได้ ในส่วนของการจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยในทุกพื้นที่ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามที่โฆษก ตร.ได้ให้ข้อมูลไว้ พร้อมยืนยัน จะดูแลความสงบเรียบร้อยตามหลักมาตรฐานสากล อย่างเต็มความสามารถ ยืนยันว่าแม้ผู้ชุมนุมจะมีการประกาศยกระดับการชุมนุมแล้ว ยังเชื่อว่ากำลังตำรวจที่มีในขณะนี้จะสามารถดูแลได้ และยังไม่ถึงระดับที่จะต้องมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแต่อย่างใด ทั้งนี้ ขอให้ทุกกลุ่มผู้ชุมนุมทุกกลุ่มชุมนุมด้วยความสงบเรียบร้อย