ผบ.ตร.สั่งตำรวจจับตาความเคลื่อนไหวเครือข่ายภาคประชาชน 77 จังหวัดอย่างใกล้ชิด ชี้สถานการณ์ล่าสุดยังไม่จำเป็นต้องขยายพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงภาพรวมการดูแลความสงบเรียบร้อยของผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ในการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าตำรวจยังคงติดตามด้านการข่าวและสถานการณ์การชุมนุมของมวลชนที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างใกล้ชิด หลังรัฐสภาผ่านการพิจารณาในวาระที่ 3 เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้ชุมุนมอาจมีการดาวกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ แต่ยังไม่พบการใช้ความรุนแรง แต่ทั้งนี้จะมีการประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน กฎหมายปกติยังสามารถดูแลการชุมนุมได้โดยไม่จำเป็นต้องขยายการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยจะมีการเจรจากับแกนนำ ให้ชุมนุมอย่างสงบภายใต้กรอบกฎหมาย แต่หากมีการละเมิด หรือปิดถนน ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ ศอ.รส.จะมีการจับตาการเคลื่อนไหวของ เครือข่ายภาคประชาชน 77 จังหวัด ที่นำโดยนายสุริยใส กตะศิลา ว่าจะมีท่าทีอย่างไร พร้อมประสานกลุ่มผู้ค้าย่านสามเสนในเรื่องการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดความรุนแรง ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัด พบการชุมนุมหน้าศาลากลาง จ.ตรัง และ นครศรีธรรมราช ส่วนการชุมนุมของกลุ่มเกษตรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่พยายามขอคืนพื้นที่ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้เส้นทาง รวมทั้งมีการตรวจพบอาวุธในพื้นที่ชุมนุมด้วย
ด้านพล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ โฆษก บช.น. กล่าวว่า ได้ประเมินสถานการณ์ม็อบอย่างต่อเนื่อง มีการเชิญตำรวจรถไฟเข้าร่วมประชุมเรื่องการปิดเส้นทางของม็อบด้วยทุกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่มีการประเมินอยู่ตลอดเวลาว่ามีประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมกี่คน เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอ ด้านของสถานราชการทุกแห่งที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลเป็นอย่างดี หากอยู่นอกพื้นที่ก็จะใช้ฎหมายปกติในการดูแล ส่วนในด้านของม็อบบริเวณย่านอุรุพงษ์นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเจรจาไปหลายครั้งแล้ว แต่ทางผู้ชุมนุมไม่ย้ายออก ทำให้ขณะนี้ทางสน.พญาไทต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
