เล่นหนัก! เสี่ยค้าเหล็กจ่อแจ้งเพิ่ม “พยายามฆ่า” คู่กรณีชักปืนขู่แย่งที่จอดรถ

คืบหน้าคดีเสี่ยค้าเหล็กถูกรถคู่กรณีขับถอยหลังชนจนได้รับความเสียหาย และถูกคู่กรณีใช้อาวุธปืนข่มขู่ เตรียมแจ้งข้อหาพยายามฆ่าดำเนินคดีเพิ่ม เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์กับบุคคลทั่วไป

วานนี้ (21 ต.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรจุฬาลงกรณ์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ความคืบหน้ากรณีที่นายสมศักดิ์ รงบัญฑิต อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 7 ซอยเทียนทะเล เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ที่ถูกคู่กรณีก่อเหตุใช้รถยนต์กระบะถอยหลังชนชนรถยนต์นั่งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎอ 5468 กรุงเทพมหานคร และใช้อาวุธปืนข่มขู่เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา จนรถของนายสมศักดิ์ได้รับความเสียหายบริเวณประตูด้านซ้าย จากนั้นคู่กรณีได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ จนตนเองต้องโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้นั้น

สำหรับความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวทาง พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สมบุญจิตร พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมในกรณีที่เกิดขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เขต 1 ได้เข้าทำแผนที่ประกอบสำนวนคดี บริเวณถนนรังสิต-นครนายก ก่อนขึ้นสะพานคลองหนึ่ง โดยนายสมศักดิ์ รงบัญฑิต ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นนั้นได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองมาทำธุระ เพื่อรับแหวนเพชรที่สั่งทำไว้ที่ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ขณะที่ตนเองได้ขับรถเข้ามาภายในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า ตนเองเห็นว่ามีที่ว่างอยู่พอดีตนเองจึงได้เปิดไฟกะพริบเพื่อจะถอยหลังเข้าที่จอดรถ แต่ขณะเดียวกันได้มีรถยนต์อีกคันหนึ่งขับตามมาด้านหลังและไม่ยอม พยายามจอดในช่องจอดรถเดียวกันกับตน ซึ่งตนก็ไม่ได้ขยับรถเพราะคิดว่าขับมาถึงก่อน จากนั้นได้มีปากเสียงกับคนขับรถคันดังกล่าว แล้วตนเองก็ได้จอดและเข้าไปทำธุระภายในห้างสรรพสินค้า

กระทั่งต่อมาได้ขับรถออกมาจากห้างสรรพสินค้าเพื่อจะกลับบ้านพัก และออกมาบริเวณถนนรังสิต-นครนายก จะกลับรถเพื่อเข้ากรุงเทพมหานคร ได้มีรถคันที่มีเรื่องกับตนเองขับตามมา จากนั้นคนขับรถได้ขับปาดหน้ารถยนต์ของตนเองจนเกือบจะชนกัน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามจะถอยรถเพื่อหนีเพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่คนขับรถคันดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนและข่มขู่ตน จึงได้โทรศัพท์ไปหา 191 จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์เข้ามาและทำการตรวจค้นรถก็พบปืนที่ใช้ข่มขู่ตน แต่ไม่พบเครื่องกระสุน เบื้องต้นตนเองได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทและใช้อาวุธปืนข่มขู่ ซึ่งในครั้งนี้ตนเองเห็นว่าคนร้ายกระทำการที่อุกอาจ ไม่เกรงตัวต่อกฎหมาย หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผู้หญิงคิดว่าจะเป็นอันตรายมาก อย่างไรก็ดี ตนเองจะเข้าแจ้งความคู่กรณีเพิ่มในข้อหาพยายามฆ่า และจะดำเนินคดีดังกล่าวให้ถึงที่สุด เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์แก่บุคคลทั่วไป