ศาลฎีกาสั่งประหารชีวิต “อาซัน” ชาวเขาค้ายาบ้า 1 แสนกว่าเม็ด ชี้มีพยานหลักฐานชัดเจน รวมทั้งคำเบิกความของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่าจำเลยเป็นตัวการและนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ ที่ ย.763/2548 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจิระศักดิ์ หรืออาซัน ฉัตรวรนิติ อายุ 32 ปี ชาวเขาเผ่าเย้า เป็นจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอีน จำนวน 60 แท่ง หรือ 60.6 กิโลกรัม และเมทเอมเฟตามีน (ยาบ้า) จำนวน 137,800 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และสมคบกันกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2547 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายเฉงแคะ แซ่ผ่าน (แยกสำนวน) ได้ของกลางยาบ้าจำนวน 137,800 เม็ด และเฮโรอีนจำนวน 60 แท่ง พร้อมโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง และและต่อมาจับกุม นายอุทัย หรือซวง หรือกวง สมประสพสุข และ นางกาญจนา หอมนาน จำเลยที่ 2-3 คดีนี้ (คดีสิ้นสุดไม่ได้อุทธรณ์) ให้การว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของนายอาซัน จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ พักอาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลังจากนั้นจำเลยที่ 1 ได้หลบหนีเข้าไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนถูกจับกุมได้ที่เมืองคุนหมิง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2548 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2550 ว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดจริงตามฟ้อง ฐานมีเฮโรอีน และเมทเอมเฟตามีน ยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ให้ประหารชีวิต ส่วนความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้จำคุก 4 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกความผิดนี้เป็นเวลา 2 ปี 9 เดือน แต่เมื่อรวมโทษจำเลยที่ 1 ทุกความผิดแล้ว คงให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1 และให้ริบของกลาง ส่วนจำเลยที่ 2-3 พยานโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดพิพากษาให้ยกฟ้อง ต่อมา จำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิต จำเลยที่ 1 นั้นชอบแล้ว แต่แก้โทษไม่ให้ริบของกลางในคดีที่ศาลได้พิพากษา นายเฉงแคะ แซ่ผ่าน ครอบครองและจำหน่าย เฮโรอีน จำนวน 60 แท่ง และยาบ้า จำนวน 137,800 เม็ด ต่อมาจำเลยที่ 1 ยื่นฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้ว เห็นว่าโจทก์มีพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเบิกความถึงวิธีการ ติดต่อวางแผนล่อซื้อยาบ้า และนัดสถานที่ส่งมอบยา รวมถึงวิธีการชำระเงินเป็นลำดับขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง ทำให้เชื่อโดยปราศจากข้อสงสัยว่านายอาซัน จำเลยที่ 1 เป็นตัวการจำหน่ายยาเสพติด ส่วนที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษนายอาซัน จำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองและสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เห็นว่ายังไม่มีน้ำหนักเพียงพอจึงสงสัยว่านายอาซัน จำเลยที่ 1 ร่วมกระทำความผิดส่วนนี้หรือไม่ พิพากษาแก้ว่านายอาซัน จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนำเข้าและส่งออกและมีไว้ให้ผู้อื่นจำหน่าย ลงโทษประหารชีวิต
อย่างไรก็ตาม วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่ได้เบิกตัวนายอาซัน จำเลยที่ 1 มาศาล เนื่องจากได้ส่งคำพิพากษาของศาลฎีกาไปอ่านให้ จำเลยที่ 1 ฟังแล้วที่เรือนจำกลางเขาบิน จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ในวันนี้จึงเป็นการอ่านคำพิพากษาให้โจทก์ฟังเท่านั้น