นนทบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่สำรวจโดยรอบ กำชับโครงการสร้างประตูระบายน้ำให้เสร็จโดยไว เบื้องต้นพบว่าประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือดี ในการแก้ไขปัญหาน้ำและตรวรจตราระดับน้ำ ทั้งนี้ยังเป็นห่วงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เตือนวันที่ 8 และวันที่ 9 ระดับน้ำจะขึ้นสูงอีก 50 เซนติเมตร ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ย้ายของขึ้นที่สูงทันที
เมื่อวันที่ 7 ต.ค.นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว นายช่างชลประทาน จ.นนทบุรี นายชัชวาล เบ็ญลาเซ็ง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นนทบุรี นายวีรพล บูรณะพานิช นายอำเภอเมืองนนทบุรี พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า ได้ล่องเรือเดินทางสำรวจสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และบ้านเรือนประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นหลังเขื่อนพระรามหกเร่งระบายน้ำ ประจวบกับระยะ 2-3 วันที่ผ่านมาฝนได้ตกติดต่อกันทุกวัน โดยระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้อยู่ที่ 2.35 เมตร ใช้เวลาในการสำรวจประมาณ 3 ชม.จากสะพานพระราม 7 อ.บางกรวย รอยต่อ จ.นนทบุรีกับ กทม.ถึงสะพานพระราม 4 อ.ปากเกร็ด ติดต่อ จ.ปทุมธานี
โดย นายธนน เริ่มสำรวจแนวเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาจากหน้าโรงไฟฟ้าบางกรวย ถึงสะพานพระราม 5 มีแนวเขื่อนยาวประมาณ 1,800 เมตร อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทานในการก่อสร้างเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมพื้นที่ อ.บางกรวย และ กทม.พร้อมทั้งมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำตลอดเส้นทาง พบว่าสามารถป้องกันน้ำได้ดี ไม่น่าเป็นห่วงแต่ที่ต้องสูบน้ำจากพื้นที่ด้านในลงสู่เจ้าพระยา เนื่องจากน้ำใต้ดินมีการซึมเข้าด้านในเป็นบางจุด หลังจากนั้นได้ลงตรวจที่วัดค้างคาว อ.เมือง จ.นนทบุรี เนื่องจากที่ตรงนี้เป็นจุดต่ำสุดของ อ.เมือง แต่ในปีนี้น้ำยังไม่เข้าท่วมพื้นที่ตรงนี้ และน่าจะควบคุมสถานการณได้ เมื่อถึงประตูระบายน้ำคลองอ้อมที่กันคลองบางกอกน้อยกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่สร้างแล้วเสร็จในปี 2551 นั้น พบว่าประตูระบายน้ำใช้ได้ดีมีการควบคุมระดับน้ำในคลองบางกอกน้อยให้อยู่ในระดับ 1.55 เมตร เพื่อป้องกันน้ำล้นคลองเข้าท่วมบ้านเรือนในคลองบางกอกน้อย, ต.ไทรม้า และ ต.บางศรีเมือง
หลังจากนั้นได้มีการสอบถามถึงโครงการประตูระบายน้ำที่เหลืออีก 3 ประตูสำคัญ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกรมชลประทานเช่นกัน คาดว่าประตูระบายน้ำที่เหลือ คือประตูระบายน้ำบางกรวย ประตูระบายน้ำบางบัวทอง และประตูระบายน้ำปากคลองพระอุดม คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 2558 โดยงบประมาณทั้งหมดเพื่อสร้างประตูระบายน้ำ พร้อมสถานีสูบน้ำและแนวเขื่อนป้องกั้นน้ำท่วม หลังจากสร้างเสร็จ จ.นนทบุรี จะไม่น่าเป็นห่วงเรื่องน้ำท่วมเหมือนที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ขึ้นตรวจบ้านเรือนประชาชนใน ต.เกาะเกร็ด พบว่าเมื่อเวลา 18.00 น.น้ำได้ลดลงจนถนนในเกาะเกร็ดสามารถใช้สัญจรได้เป็นปกติ ยกเว้นบ้านเรือนที่อยูริมแม่น้ำ ซึ่งน้ำได้เข้าท่วมภายในบ้านประมาณ 50 ซม.ซึ่งระดับน้ำจะมีขึ้นและลงวันละ 2 เวลา จากนั้นได้แจกจ่ายยารักษาโรคและยาป้องกันน้ำกัดเท้าให้กับประชาชนเบื้องต้นแล้ว
นายธนน กล่าวว่า วันนี้ได้เข้าดูพื้นที่ความจริงทราบตัวเลขระดับน้ำอยู่แล้ว แต่วันนี้จะมาดูปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ว่ามีความเป็นอยู่ยังไงและวันนี้ยังได้ติดตามดูประตูระบายน้ำที่ยังสร้างไม่เสร็จ จะมีการเร่งให้เสร็จเร็วขึ้นและยังมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ด้วย พบว่าประชาชนกับภาครัฐ และ อบต.ยังมีการร่วมมือกันด้วยดีในการแก้ปัญหาน้ำและตรวจตราระดับน้ำ นับสถานการณ์ในจ.นนทบุรีตอนนี้ยังไม่วิกฤติเพราะน้ำยังปล่อยมาไม่ถึง 2,500 ลบ.ม./วินาที จึงยังไม่อันตรายมากนักแต่ที่เราเป็นห่วงคือน้ำทะเลหนุนที่จะขึ้นวันละ 2 ครั้ง จะทำให้น้ำขึ้นอย่างรวดเร็วและถ้ามาประจวบกับน้ำที่ปล่อยลงมาจากเขื่อนอีก จึงอยากเตือนประชาชนว่า ภายในวันที่ 8 และ 9 ต.ค.น้ำจะสูงขึ้นอีกวันละประมาณ 50 ซม.ขอให้ย้ายของขึ้นที่สูงให้มากกว่านี้อีก