xs
xsm
sm
md
lg

โชเฟอร์หนุ่มควบ 18 ล้ออัดท้ายกะบะขนพนักงานและสายเคเบิลดับ 1 ราย และบาดเจ็บอีก 4 (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


โชเฟอร์หนุ่มควบรถ 18 ล้ออัดท้ายรถกระบะขนพนักงานและสายเคเบิล ดับ 1 บาดเจ็บอีก 4 ราย ตร.คาดรถพ่วงเบรกไม่ทันจึงชนเข้าอย่างแรง


เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 5 ต.ค. พ.ต.ท.มนัส นิลกลัด สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ย่อยรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อชนท้ายรถยนต์กระบะมีรถเสียหายหลายคัน ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหลายราย บริเวณจุดกลับรถหน้าร้านอาหารคนติดดิน ถนนติวานนท์ จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ซึ่งถูกชนท้ายเสียหายจำนวน 3 คัน คันที่ 1 เป็นแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มช 3784 กทม คันที่ 2 เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฒน 6573 กทม คันที่ 3 เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ปต 4073 กทม ซึ่งบรรทุกม้วนสายเคเบิลอยู่บนท้ายกระบะ และยังพบร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 รายนอนอยู่ที่ท้ายกระบะเช่นกัน ทราบชื่อต่อมาคือนายสุริยา พิมนุเวช อายุ 18 ปี เป็นพนักงานบริษัทรับติดตั้งสายเคเบิล ส่วนที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้นจำนวน 4 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้การช่วยเหลือนำส่ง รพ.พระนั่งเกล้าไปก่อนหน้านี้ ส่วนรถที่ก่อเหตุเป็นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเสาเข็ม ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียนส่วนหัว 88-9849 นครปฐม ส่วนพ่วงทะเบียน 81-4729 สมุทรสาคร ซึ่งจอดห่างจากจุดเกิดเหตุไปเล็กน้อย

นายไสว จันทร์รักษา อายุ 30 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะนิสสัน เล่าเหตุการณ์ว่า ตนพร้อมเพื่อนร่วมงานทั้งหมด 7 คนเพิ่งไปนำม้วนสายเคเบิลออกจากบริษัทที่อยู่ในซอยติวานนท์ 3 ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ กำลังไปติดตั้งที่ย่านถนนรัชดาภิเษก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถทุกคันรวมทั้งรถตนนั้นเริ่มชะลอตัวเพื่อจะกลับรถ จากนั้นไม่กี่วินาทีได้มีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ พุ่งเข้ามาชนท้ายอย่างแรงจนรถตนเองได้ถูกกระแทกและชนต่อไปอีก 2 คันที่อยู่ด้านหน้า ส่วนเพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่กระบะท้ายจำนวน 5 คนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

นายยุทธนา พลนอก อายุ 27 ปี ผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงเล่าว่า ตนขับรถและบรรทุกเสาเข็มมาจาก จ.นครปฐม เพื่อจะไปส่งให้ลูกค้าที่ในเขตลาดกระบัง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถได้เริ่มชะลอตัว ซึ่งตนได้ขับตามท้ายรถกระบะ แต่รถด้านหน้านั้นได้เกิดเบรกกะทันหันจึงทำให้ต้องหักหลบ ประกอบกับรถบรรทุกพ่วงที่ตนขับมีน้ำหนักมากจึงไม่สามารถเบรกได้ทันจึงทำให้พุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะที่มีคนงานนั่งอยู่เต็มท้ายรถเข้าอย่างเต็มแรง จากนั้นได้พยามประคองรถและนำเข้าข้างทางเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พ.ต.ท.มนัสกล่าวว่า รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อคันก่อเหตุได้ขับมาในช่องทางขวาซึ่งเป็นช่องทางที่รถทั้ง 3 คันนั้นกำลังรอกลับรถและสันนิษฐานว่ารถบรรทุกพ่วงน่าจะหยุดรถไม่ได้ทันจึงพุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะที่บรรทุกคนงานและม้วนสายเคเบิ้ลเข้าอย่างเต็มแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย พร้อมนำตัวผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงไปสอบสวนต่อและแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนั้นจึงมอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิตต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น