คณะนายก อบต.ท่าอิฐ ขมีขมันตรวจชุมชนอิสลามริมฝั่งเจ้าพระยา พบผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งแล้วหลังมีการระบายน้ำจากเขื่อน หวั่นซ้ำรอยมหาอุทกภัยปี 54
วันนี้ (2 ต.ค.56) เวลา 17.00 น.ที่ชุมชนชาวบ้านอิสลาม ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายปรีดา เชื้อผู้ดี นายก อบต.ท่าอิฐ และ นายธานี โพธิ์เที่ยง รองนายก อบต.ท่าอิฐ ได้ออกสำรวจบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา หวั่นน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พบว่าบ้านชุมชนอิสลามและมัสยิดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบแล้ว โดยระดับน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงสุดคืนวานนี้ (1 ต.ค.) สูงถึง 2.30 เมตร ทำให้ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เนื่องจากน้ำที่ชั้นล่างของบ้านสูงถึง 80 ซม.
ด้าน อบต.ท่าอิฐ ได้ทำการขอเครื่องสูบน้ำจากสำนักงานเครื่องจักรกล กรมชลประทาน เพื่อติดตั้งไว้จำนวน 2 จุดระบายน้ำได้ประมาณ 1,200 ลบ.ม.ต่อ ชม.เร่งระบายน้ำที่จะล้นจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่คลองบางบัวทอง ก่อนที่จะเกิดผลกระทบต่อบ้านเรือนท้ายคลองนับ 10,000 หลังคาเรือน เนื่องจากประตูกั้นน้ำที่ปากคลองบางบัวทองเป็นประตูกั้นน้ำชั่วคราวที่ทำไว้เมื่อปี 54 ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 400 ล้านบาท ให้สร้างประตูกั้นน้ำถาวรแล้ว แต่ยังไม่ได้จัดสร้าง พระครูนนทวีราภรณ์และชาวบ้านเป็นกังวลกับระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้น จึงอยากให้ทางกรมชลประทานแจ้งความสูงของระดับน้ำว่าจะสูงขนาดไหน ทางกรมชลประทานถึงจะนำแผ่นเหล็ก (ชิปพาย) กั้นเพื่อปิดประตูกั้นน้ำที่ปากคลองบางบัวทอง ทั้งนี้ระดับน้ำที่หน้าวัดบางบัวทอง ในคลองบางบัวทอง ต.ท่าอิฐ น้ำได้สูงกว่าพื้นวัดประมาณ 30 ซม.และมีน้ำบางส่วนซึมผ่านพนังกั้นน้ำเข้าสู่ด้านในวัดสูงประมาณ 10 ซม.แล้ว
นายปรีดา กล่าวว่า คนที่อยู่ริมคลองมีหลายร้อยครอบครัว ฉะนั้นเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งตรงนี้ต้องเป็นจุดใหญ่ จึงได้ขอเครื่องสูบน้ำจากทางกรมชลประทาน ต้องรีบทำก่อนที่จะมีปัญหาน้ำท่วมเยอะกว่านี้ แต่ปัญหาใหญ่ตรงนี้คือชาวบ้านอยากให้ปิดแผ่นเหล็กที่ปากคลองบางบัวทองเพื่อกั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ให้เข้ามาในคลองจนเกิดผลกระทบกลับชาวบ้าน ตอนนี้พื้นที่นี้ยังไม่ได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติไม่ได้ของบจากส่วนกลาง จึงใช้งบตนเองในการกั้นกระสอบทรายและสูบน้ำออกจากพื้นที่ ทางเราไม่อยากประมาทไม่อยากให้เหมือนปี 54 อีก