คนขับแท็กซี่ถูกตำรวจจับข้อหาจอดรถกีดขวางการจราจรบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว แถมโดนข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานซ้ำ เครียดจัดผููกคอตายคาห้องขัง สน.โชคชัย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (28 ก.ย.) ขณะที่ ร.ต.ท.สราวุธ กังคำ พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ปฎิบัติหน้าที่ร้อยเวรสอบสวนอยู่บนโรงพัก ได้รับแจ้งจาก ด.ต.ณภัทร นาดี สิบเวร ประจำห้องขังว่า ได้มีผู้ต้องหาชายให้กางเกงผูกคอตายภายในห้องขังจึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย แพทย์เวรจาก รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นในบริเวณชั้นล่างของโรงพัก มีผู้ถูกคุมขังอยู่จำนวน 2 คน และแยกออกเป็น 2 ห้อง ตรวจสอบภายในห้องขังชายพบศพ นายประกัน ป้องคำไหล อายุ 56 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ใช้กางเกงขายาวผูกที่ลำคอติดอยู่กับลุกกรงด้านบนสูงประมาณ 2 เมตร ลักษณะศพห้อยตัวอยู่ติดกับลูกกรง ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันปลดผ้าที่ผูกไว้ และนำร่างลงมา
จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.ธนวัตร เปิดเผยว่า คนตายได้ถูก ด.ต.มนัส ธงริ้ว ผบ.หมู่ (จราจร) สน.โชคชัย จับกุมในเวลาประมาณ 12.40 น. วันเดียวกัน ขณะขับรถแท็กซี่โตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู ทะเบียน ทว 7764 กทม.จอดอยู่ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว จากนั้น ด.ต.มนัส จึงได้เรียกขอดูใบอนุญาตขับขี่เพื่อจะทำการออกใบสั่ง โดยทางผู้ตายได้ยื่นเงิน จำนวน 100 บาท ให้แก่เจ้าหน้าที่ แต่ทาง ด.ต.มนัส ก็ได้ปฎิเสธที่จะรับเงินดังกล่าว แต่ผู้ตายยังยืนยันจะให้ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุม พร้อมแจ้งข้อหาจอดรถกีดขวางการจราจร และให้สินบนเจ้าพนักงาน จากนั้นก็ได้ควบคุมตัวมาฝากขังไว้ที่ สน.โชคชัย เพื่อดำเนินตามกฎหมาย โดยขณะที่ควบคุมตัวมาทางผู้ตายก็มีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา
พ.ต.อ.ธนวัตร เปิดเผยต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์ไปสอบถามยังอู่แท็กซี่ที่ผู้ตายเช่าอยู่โดยทางเจ้าของอู่ให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายผู้ตายได้โทรศัพท์มาบอกว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับในข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน และฝากบอกถึงภรรยาว่าอยากจะฆ่าตัวตาย จนมาก่อเหตุสลดดังกล่าว และขณะนี้ตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องเท็จจริงดังกล่าวแล้วโดยจะดูว่าทางสิบเวรมีข้อบกพร่องต่อหน้าที่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางตนเองก็ได้ประสานกับทางญาติผู้ตายให้เดินทางมารับศพ และได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป