xs
xsm
sm
md
lg

โจรร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินแบงก์รวงข้าวเกือบ 3 แสน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

คนร้ายสวมหมวกกันน็อกจี้ชิงทรัพย์แบงก์กสิกรไทย สาขาธนบุรี กวาดเงินสดไปกว่า 2.7 แสนบาท
ตร.บุปผาราม รับแจ้งเหตุคนร้ายสวมหมวกกันน็อกบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์แบงก์กสิกรไทย สาขาธนบุรี กวาดเงินสดไปกว่า 2.7 แสนบาท คาดเตรียมการมาอย่างดี เพราะช่วงก่อเหตุมีเจ้าหน้าที่ธนาคารเพียงคนเดียว เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดล่าตัวมาดำเนินคดีต่อไป

วันนี้ (24 ก.ย.) ร.ต.ท.วิเชียร อินทร์จันทร์ พนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์เงินสดภายในธนาคารกสิกรไทย สาขาธนบุรี ถ.ประชาธิปก แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม.จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ยุทธนา ปุญชรัศมิ์ ผกก.สน.บุปผาราม พ.ต.ท.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว สว.สส.สน.บุปผาราม

ที่เกิดเหตุพบ น.ส.อุมาพร เล็กวงศ์มณีพันธุ์ อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่ธนาคารประจำเคาน์เตอร์ 3 นั่งรอให้การกับเจ้าหน้าที่ โดย น.ส.อุมาพร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาพักเที่ยง เพื่อนพนักงานได้ออกไปรับประทานอาหารกันหมด เหลือตนเพียงคนเดียวนั่งประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์ โดยมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพียงคนเดียว ระหว่างที่ให้บริการลูกค้าอยู่ ปรากฏว่า มีคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีขาว มีหมวกไหมพรมสวมอยู่ด้านในอีกชั้น สวมเสื้อวอร์มสีน้ำเงินเข้ม มีแถบขาวที่แขน สวมกางเกงขายาวสีดำ สะพายกระเป๋าสะพายสีดำ เดินตรงเข้ามาหาตน แล้วพูดว่า “มีปืนอยู่ในกระเป๋าสะพาย นี่คือการปล้น ส่งเงินมาให้หมด อย่ากดสัญญาณไฟ ไม่อยากทำร้ายใคร” โดยคนร้ายได้โชว์อาวุธปืนที่อยู่ในกระเป๋าสะพาน เป็นแบบแม็กกาซีนสีดำ ด้วยความตกใจตนจึงหยิบเงินสดที่อยู่ในลิ้นชักประมาณ 270,780 บาทส่งให้คนร้ายไป จากนั้นคนร้ายจึงวิ่งหลบหนีไป

ด้าน นายศักดิ์สิทธิ์ พรมประสิทธิ์ อายุ 38 ปี ลูกค้าที่มาใช้บริการ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าธนาคาร ก็พบเห็นคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ รุ่น 125 สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เมื่อตนขึ้นไปบนธนาคารก็พบว่าไม่มีลูกค้าคนอื่นๆ มีเพียง น.ส.อุมาพร พนักงานงานธนาคาร นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์เพียงคนเดียว ด้วยความที่ตนมาติดต่อธุรกรรมที่ธนาคารแห่งนี้เป็นประจำ ทำให้รู้จักกับ น.ส.อุมาพร จึงไม่ได้กดบัตรคิว เดินไปติดต่อชื้อเช็ค จากนั้นไม่นานคนร้ายก็เดินเข้ามาหาตนกับ น.ส.อุมาพร ก่อนบังคับให้ส่งเงินให้ เมื่อได้เงินแล้วได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางแยกวงเวียนใหญ่

เบื้องต้นตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเตรียมการมาก่อน เพราะอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีลูกค้ารายอื่น และพนักงานออกไปรับประทานอาหารกันหมด ซึ่งจะได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหารูปพรรณสัณฐานของคนร้ายเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น