นนทบุรี - ลูกบุญธรรมเศรษฐีใหญ่ใจบุญ เข้าชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี หลังถูกกล่าวหาโกงเงินพ่อแม่บุญธรรมกว่า 30 ล้าน
วันนี้ (21 ก.ย.) เวลา 15.00 น. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายวิศวกร คำประกอบ อายุ 48 ปี พร้อมทนายความ นายกฤษธเนศ พงษ์ชู และนายลถากรณ์ จันทรมณี เข้าพบ พ.ต.ท.รัชกฤช วุฒิชัยภิญญู รอง ผกก.สอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองนนทบุรี หลังมีข่าวกรณี นางไขแสง กำเนิดมี อายุ 84 ปี เศรษฐีใจบุญเมืองนนทบุรี แม่บุญธรรมเข้าแจ้งความว่าถูกยักยอกทรัพย์กว่า 30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.ย.56 เพื่อขอเข้าชี้แจ้งรายละเอียด และแสดงความบริสุทธิ์ใจ
สืบเนื่องจาก นางไขแสง และน้องชายคือ นายสมบัติ กำเนิดมี พบว่าเงินค่าเช่าที่ นายวิศวกร ต้องเก็บมาเข้าบัญชีทุกเดือน เดือนละประมาณ 200,000 บาท ตั้งแต่ปีพ.ศ.2551 ไม่มีการนำเข้าบัญชี อีกทั้งนายวิศวกร ยังเอากระดาษมาให้ นางไขแสง เซ็น โดยบอกว่าจะไปเบิกเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน มาทราบอีกทีพบว่าลูกบุญธรรมเอาลายเซ็นไปเบิกเงิน รวมทั้งปลอมแปลงลายเซ็นหลายครั้งเพื่อทำธุรกรรมเบิกเงินที่ธนาคารสูญเงินไปเกือบ 30 ล้านบาท จนนายสมบัติ ต้องรีบย้ายเงินส่วนที่เหลืออีก 19 ล้านบาท ไปไว้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อทวงถามความจริงจากนายวิศวกร ก็บ่ายเบี่ยงตลอดเวลาว่าไม่ได้เป็นคนทำ ก่อนที่จะหายออกจากบ้านไป นางไขแสง จึงให้นายสมบัติ พามาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อ นายวิศวกร ลูกบุญธรรม
วันนี้ นายวิศวกร ได้นำโฉนดที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินย่านบางเขน จ.นนทบุรี สมุดบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. และเอกสารอื่นๆ เข้าชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงที่มาที่ไปในการทำธุรกรรมต่างๆ ว่า ทุกครั้งที่มีการเบิกจ่ายเงิน นางไขแสง รับทราบด้วยทุกครั้ง ส่วนเรื่องที่มีทรัพย์สินที่เป็นทองรูปพรรณ แหวนเพชร และข้าวของในบ้านที่หายไป ตนไม่ทราบเรื่องให้สอบถามจากคนขับรถ และคนนวดที่ใกล้ชิด ส่วนเรื่องเอกสารทั้งหมดที่ตนนำไปเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2553 นั้นเพราะกลัวจะสูญหาย แต่จะคืนให้แก่ นางไขแสง เท่านั้นเนื่องจากไม่ไว้ใจคนอื่น
นายวิศวกร กล่าวต่อว่า ในจำนวนโฉนดทั้งหมดมีที่ดินใน ซ.งามวงศ์วาน 25 จำนวน 2 แปลง ที่นางไขแสง ยกให้ตน ส่วนเงินที่หายไปบางส่วนเบิกเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านของนางไขแสง และตนได้มีการขอยืมไปบางส่วนเป็นเงินประมาณ 1.2 ล้านบาทจริง และจะทยอยคืนให้ ส่วนรายละเอียดการเบิกเงินตนสามารถตรวจสอบกับธนาคารได้ เพื่อยืนยันว่าเป็นการเซ็นเบิกจากนางไขแสง เอง ตนไม่ได้ปลอมแปลงเองทั้งสิ้น
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการลงบันทึกรายละเอียดทรัพย์สินต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน และจะนัดนางไขแสง และนายวิศวกร พร้อมทนายความเข้าพบเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งก่อนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป