ผจก.ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสีลมแจ้งความถูกชุดลิขสิทธิ์กรรโชกทรัพย์

ASTVผู้จัดการ – ผู้จัดการร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสีลมแจ้งความ ระบุถูกชายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ของแกรมมี่ พร้อม ตร.สน.ยานนาวา ยศ พ.ต.ท. บุกร้านอ้างละเมิดเปิดเพลงลิขสิทธิ์ พาตัวมาสอบสวนที่ สน.โดนไถ่ไป 35,000 บาท แต่เมื่อสอบถามไปทางค่ายเพลง แกรมมี่กลับระบุไม่เคยส่งคนไป

เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (17 ก.ย.) น.ส.หริญยา หาญปราบ อายุ 33 ปี ผู้จัดการร้านอาหารสลัดดี และตั้งอยู่เลขที่ 491/14-15 ชั้นจี ในอาคารสีลมพลาซ่า ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.อรรถพล ขุนนุช พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีนายธงชัย หรือ แบงค์ ไม่ทราบนามสกุล พร้อมพวกรวม 5 คน ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นพนักงานของบริษัท เค.ที.พับลิซซิ่ง จำกัด ในข้อหาข่มขู่กรรโชกทรัพย์ หลังจากทั้งหมดได้เข้ามาขอตรวจจับเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา

น.ส.หริญยา เล่าว่า ที่ร้านของตนมีเจ้าของร้านเป็นชาวญี่ปุ่นชื่อ นาโอโกะ อาซาวา อายุ 46 ปี เปิดให้บริการขายอาหารญี่ปุ่นตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.โดยวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.50 น.ตนกำลังจะปิดร้าน และไม่มีการเปิดเพลงใดๆ แล้ว แต่มีชายคนหนึ่งชื่อสมพร อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ของบริษัท แกรมมี่ เดินเข้ามาในร้านเพื่อขอดูแผ่นซีดีเพลงไทยของร้าน ซึ่งเจอเพียงแผ่นเดียว แต่ตนก็ซื้อมาอย่างถูกต้อง ระหว่างนั้นก็มีชายอีก 4 คน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ของบริษัท เค.ที.พับลิซซิ่ง จำกัด โดยหนึ่งในนั้นชื่อธงชัย หรือ แบงค์ ตามเข้ามาพร้อมกับชายอีก 1 คนที่แต่งกายชุดซาฟารีสีน้ำเงิน อ้างว่าเป็นตำรวจของ สน.ยานนาวา ยศ พ.ต.ท.เข้ามาขอตรวจแผ่นเพลงสากล ซึ่งภายในร้านก็มีแผ่นไรต์เพลงบรรเลงไม่มีเนื้อร้องเป็นเพลงอังกฤษ 2 แผ่น เพลงบรรงเลงญี่ปุ่น 4 แผ่น ซึ่งทั้งหมดก็อ้างว่าตนทำผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์เพลงภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งพาตนเดินทางมาที่ สน.ยานนาวา แต่พากันไปเจรจากันที่ห้องประชุมเล็ก ซึ่งเป็นห้องสอบสวนคดีเด็กและสตรีอยู่ชั้นล่างติดกับห้องน้ำ ไม่ได้เข้าพบร้อยเวร

น.ส.หริญยา ให้การต่อว่า หลังจากนั้นนายธงชัย ก็แจ้งว่าทางร้านจะต้องจ่ายเงินค่าปรับทั้งหมด 55,000 บาท ตนจึงปรึกษากับเจ้านาย เนื่องจากมีเงินสดไม่พอ จึงต่อรองกันจนเหลือ 35,000 บาท แบ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์ 5,000 บาท และค่าปรับ 30,000 บาท ทางตนจึงยอมจ่ายไป เพราะตอนนั้นตกใจ และกลัวว่าทางเจ้านายจะโดนดำเนินคดี ทางนายธงชัยกับพวกก็พูดจาข่มขู่ตลอดว่าถ้าไม่ยอมจ่าย ต้องเข้าห้องขังคืนนี้ และเรื่องถึงศาล ฟ้องร้องกันจะต้องจ่ายถึง 2 แสนบาท เมื่อจ่ายแล้ว นายธงชัยเอาใบอนุญาตให้ใช้งานลิขสิทธิ์เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนกับหนังสือสัญญามาให้ทางร้านเอาไว้ ซึ่งตนก็ขอใบเสร็จค่าปรับด้วย ซึ่งนายธงชัยก็บอกว่าจะให้ภายหลัง แต่แล้วก็ไม่ได้ให้มาแต่อย่างใด จึงรู้สึกเอะใจ เพราะก่อนหน้านี้ทางบริษัท เค.ที.พับลิซซิ่ง ก็ไม่เคยมาติดต่อขอเก็บค่าลิขสิทธิ์รายเดือนแต่อย่างใด เมื่อตนไปสอบถามร้านในอาคารเดียวกันก็ทราบว่ามีบางร้านถูกจับกุมในลักษณะเดียวกันกับร้านตนด้วย

น.ส.หริญยา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนก็ได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับทางบริษัท แกรมมี่ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปดำเนินการด้านจับกุมละเมิดลิขสิทธิ์ และนายสมพรไม่ได้มีหน้าที่ด้านนี้แล้ว ให้ดำเนินการตามกฎหมายได้เลย เพราะทางบริษัทไม่มีนโยบายให้ไปเรียกเก็บเงินลักษณะนี้ หลังจากนั้นก็โทรศัพท์ไปถามกับทางบริษัท เค.ที.พับลิซซิ่ง ก็ได้รับคำตอบว่ามีการส่งเจ้าหน้าที่ออกมาจริง แต่เมื่อเจ้านายกับตนปรึกษากับทนายความแล้ว ก็เห็นว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นไปโดยมิชอบ เพราะทางร้านตนเปิดในลักษณะร้านอาหาร ลูกค้าตั้งใจเข้ามากินอาหารอยู่แล้วไม่ใช่มุ่งจะเข้ามาฟังเพลง ไม่ใช่ผับ หรือบาร์ ที่มุ่งเปิดเพลงเพื่อการค้า อีกทั้งช่วงที่กลุ่มคนดังกล่าวเข้ามาจับกุมก็เป็นช่วงจะปิดร้าน ไม่ได้มีการเปิดเพลงแต่อย่างใด ทางเจ้านายจึงมอบหมายให้ตนเข้ามาแจ้งความเพื่อให้เป็นตัวอย่างไม่ให้กลุ่มเจ้าหน้าที่พวกนี้เข้ามาจับกุมโดยมิชอบ

ด้าน ร.ต.ท.อรรถพล กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้ทางร้านของผู้เสียหายทำหนังสือมอบอำนาจให้ น.ส.หริญยา เป็นผู้มาแจ้งความ ก่อนจะรับแจ้งความไว้พร้อมสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ หลังจากนั้นก็จะเรียกตัวฝ่ายผู้ถูกกล่าวหามาทำการสอบปากคำ หากพบว่าเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมายก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป