xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.ลงพื้นที่เกาะติดม็อบสวนยาง สั่งเร่งออกหมายจับ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การการชุมนุมม็อบชาวสวนยาง กำชับเร่งรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้กระทำผิด 19 ราย โบ้ยฝีมือกลุ่มผู้ไม่หวังดีแต่งชุดตำรวจอยู่ในกลุ่มผู้กลุ่มชุมนุม

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชอย่างเร่งด่วน เพื่อติดตามสถานการณ์และตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) เกิดเหตุความวุ่นวายในพื้นที่การชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน บริเวณแยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยมีรถตำรวจถูกเผาหลายคัน และตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายราย

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราชได้แล้ว ซึ่งจะมีการกำชับให้ตำรวจที่ควบคุมฝูงชนเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการเข้าพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก พร้อมเร่งติดตามอาวุธและเครื่องมือประจำกายของตำรวจที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดไปกลับคืนมาโดยเร็ว ทั้งนี้ จากเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้กระทำผิด ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้มีการออกหมายจับผู้กระทำผิดในช่วงการชุมนุมไปแล้วทั้งหมด 19 หมาย และติดตามจับกุมได้แล้วบางส่วน

ส่วนกรณีปรากฏภาพผู้ที่แต่งกายคล้ายตำรวจอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ผบ.ตร.ระบุว่า เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุม หรือผู้ไม่หวังดีที่ต้องการให้เกิดความรุนแรง

ด้านพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน ใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ว่า วันนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้เข้าชี้แจงข้อมูลต่อคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงทั้งตำรวจและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ เนื่องจากมีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 78 นาย จึงสั่งการหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมเน้นย้ำให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความละมุนละม่อม หลีกเลี่ยงการปะทะ ทำความเข้าใจกับประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ ซึ่ง ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ลดการปะทะ ด้วยการถอยร่นไปในจุดที่เหมาะสม ควบคู่การเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อเปิดเส้นทางจราจร พร้อมตั้งด่านตรวจค้นอาวุธ ตลอดจนปรับกำลังให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ล่าสุด ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจเข้มแข็ง 4 จุด รอบการชุมนุม โดยใช้กำลังประมาณ 5 กองร้อย

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการตรวจสอบแกนนำผู้ชุมนุมพบภาพหลักฐานการกระทำผิดทั้งสิ้น 12 คน ซึ่งทั้งหมดมีหมายจับในคดีต่างๆ รวม 29 หมายจับ ส่วนการรับแจ้งความ แบ่งเป็น 4 กลุ่มเหตุการณ์ ได้แก่ เหตุทำลายป้อมยามที่พักสายตรวจ บริเวณแยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ,เหตุใช้ขบวนรถปิดเส้นทาง บริเวณแยกเตาปูน อ.จุฬาภรณ์,เหตุใช้ขบวนรถปิดเส้นทาง บริเวณแยกควนหนองหงส์ และเหตุเผารถ ทำลายทรัพย์สินราชการ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมภาพหลักฐานบุคคลที่แต่งกายเลียนแบบตำรวจ ทุบทำลายรถตำรวจและสื่อมวลชน เพื่อออกหมายจับ โดยจะเน้นดำเนินคดีกับกลุ่มหัวโจก และผู้กระทำผิดเป็นหลัก พร้อมย้ำว่า การชุมนุมในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ มีความเชื่อมโยงกับการชุมนุมในพื้นที่กทม.

ทั้งนี้ จากการข่าว ระบุว่า มีบุคคลบางกลุ่ม พยายามจะยกระดับการชุมนุม ด้วยการเผาสถานที่ราบการ สถานที่สำคัญ รวมทั้ง จับตัวบุคคลสำคัญในอำเภอ หรือจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
กำลังโหลดความคิดเห็น