ผู้ปกครอง นร.โรงเรียนมุสลิมย่าน ต.ท่าอิฐ จ.นนทบุรี โวยอาจารย์โพสต์ด่านักเรียน กรณีโทรศัพท์มือถือหายไปพร้อมกัน 10 กว่าเครื่องในกระเป๋านักเรียน ขณะทำพิธีละหมาด ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่แท้ถูกอาจารย์ยึด อ้างผิดกฎโรงเรียน
วันนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเหตุร้องเรียนจากผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนมุสลิมแห่งหนึ่งย่าน ต.ท่าอิฐ จ.นนทบุรี ว่า บุตรสาวได้นำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนแล้วหายไปจากกระเป๋านักเรียน และโทรศัพท์มือถือของเพื่อนๆ ในห้องก็หายไปกว่า 10 เครื่องด้วย โทรศัพท์ทั้งหมดได้หายไปในช่วงประกอบพิธีกรรมทางศาสนา (ละหมาด) มารู้ว่าโทรศัพท์หายเมื่อกลับถึงบ้านพักจึงเล่ารายละเอียดให้ผู้ปกครองฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
จากการสอบถาม ด.ญ.เอ๋ (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนดังกล่าวเล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นวันศุกร์ที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา ได้นำโทรศัพท์มือถือไปที่โรงเรียนด้วย เนื่องจากทุกวันจะต้องตื่นมาช่วงดึกคอยช่วยมารดาขายของ และสั่งของ เพราะมารดาได้เปิดร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จึงจำเป็นต้องพกโทรศัพท์มือถือติดตัวตลอดเวลา สำหรับคอยติดต่อประสานงานเกี่ยวกับการสั่งของต่างๆ ให้มารดา ด.ญ.เอ๋ กล่าวต่อว่า เมื่อรู้ตัวว่าโทรศัพท์หายจึงได้เข้าไปพิมพ์ข้อความในเฟซบุ๊ก เพื่อเป็นการระบายอารมณ์ และพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนๆ ในห้องเรียนที่โทรศัพท์มือถือหายไปเหมือนกัน ในระหว่างที่กำลังโพสต์ข้อความถึงผู้ที่เอาโทรศัพท์มือถือไป ปรากฏว่ามีข้อความพิมพ์ตอบสวนกลับมา ใช้นามว่า Ai-Mie WanKama กล่าวหาว่า นักเรียนทำผิดกฎระเบียบภายในโรงเรียนที่มีข้อห้ามนักเรียนนำโทรศัพท์มือถือเข้ามาภายในโรงเรียน พร้อมทั้งนำรูปมาโพสต์เป็นภาพผู้หญิงถือปืนลักษณะคล้ายกับอยู่หน้าห้องประชุมแห่งหนึ่ง โดยยกมือจิ้มที่ปากแล้วมือขวาที่ถือปืนชี้ไปที่กระดานมาให้นักเรียนดู และมีการพิมพ์พูดตอบโต้ว่ากันไปมาในเฟซบุ๊กระหว่างนามผู้ใช้ว่า Ai-Mie WanKama กับ ด.ญ.เอ๋ หากคุณครูค้นเจอโทรศัพท์มือถือภายในกระเป๋าของนักเรียน ทางโรงเรียน และอาจารย์มีสิทธิยึดมือถือได้ และจะส่งคืนให้ภายใน 4 เดือน หรือ 1 เทอม ตามกฎข้อบังคับของทางโรงเรียนที่ตั้งขึ้นมา
ด้าน นางโสภา เห่งพุ่ม มารดาของ ด.ญ.เอ๋ อยู่บ้านเลขที่ 72/6 หมู่ 1 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กล่าวว่า บางครั้งต้องมีความจำเป็นในการติดต่อกับบุตรสาว จึงเห็นว่าทางโรงเรียนควรอนุโลมบ้าง ขนาดตนไปเอามือถือคืนทางโรงเรียนก็ยังไม่ให้คืน อ้างว่าผิดกฎระเบียบของทางโรงเรียนจึงต้องทำการยึดไว้ ทำให้ตน และทางญาติพี่น้องเกิดความสงสัยว่าทางโรงเรียนทำเกินกว่าเหตุไปหรือเปล่า ในเมื่อโทรศัพท์มือถือเก็บไว้ภายในกระเป๋าไม่ได้นำออกมาใช้ จะใช้ก็เฉพาะหลังเลิกเรียนแล้วเพื่อโทร.ติดต่อกับผู้ปกครองให้มารับกลับบ้าน โทรศัพท์มือถือถือว่าเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว
นายอิมรอน์ เสมสายยันต์ อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
หลังจากนั้น นางโสภา ได้เดินทางมาที่ สภ.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันต่อ ร.ต.ท.ภูวินัย พลเยี่ยม พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน เพื่อรอทางโรงเรียนสรุปถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น และแนวทางในการปฏิบัติของทางโรงเรียนภายในสัปดาห์นี้ต่อไป
